ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์เพิ่มขึ้น หลังเฟดรายงานเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลาง สหรัฐจะพิจารณาคว่ำบาตรอิหร่าน กดดันปริมาณส่งออกน้ำมัน

บริษัทไทยออยล์ รายงานภาวะราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อ
วันที่ 2 พ.ค. 2561 โดยระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ขยายตัวในระดับปานกลาง และยังเชื่อว่าว่าอัตราเงินเฟ้อในรอบ 12 เดือนจะขยับเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2%
ในระยะกลางตามที่ประมาณการเอาไว้

นอกจากนั้นตลาดน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะพิจารณามาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค. 2561 ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณ
การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านปรับลดลงประมาณ 300,000 – 500,000 บาร์เรลต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณ
น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 เม.ย. 2561 เพิ่มขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรลแตะที่ระดับ 436 ล้านบาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI)ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 67.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 73.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

แนวโน้มในสัปดาห์นี้ ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTIเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 72-77เหรียญสหรัฐฯ