HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 88 จุด ส่วน Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ นักลงทุนรอรายงานอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ -ผลประกอบการไตรมาสที่สองชุดแรก ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบเล็กน้อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ปิดที่ 44,459.65 จุด เพิ่มขึ้น 88.14 จุด หรือ +0.20% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ เนื่องจากนักลงทุนไม่สนใจความตึงเครียดด้านการค้าที่เกิดขึ้นอีกครั้ง และมองไปข้างหน้าถึงรายงานอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญและผลประกอบการไตรมาสที่สองชุดแรก
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,268.56 จุด เพิ่มขึ้น 8.81 จุด, +0.14%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,640.33 จุด เพิ่มขึ้น 54.80 จุด, +0.27%
ในช่วงแรก นักลงทุนลดความเสี่ยงลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าสหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปและเม็กซิโก 30% ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป และขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าจากหลายประเทศก็ตาม
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสูงถึง 100% จากรัสเซียภายใน 50 วัน หากรัสเซียไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพ เพื่อยุติสงครามในยูเครน และยังกล่าวอีกว่าสหรัฐฯ จะจัดหาอาวุธให้ยูเครนด้วย
แต่ตลาดยังไม่ปรับลง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการเจรจาลดภาษีนำเข้าในที่สุด และคาดการณ์ว่าสัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่คึกคักสำหรับฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สอง
เจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรปและเม็กซิโกกำลังผลักดันให้เจรจากับสหรัฐฯ ต่อไป โดยหวังว่าจะได้อัตราภาษีที่ลดลงผ่านข้อตกลงใหม่ ภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ถูกมองว่ามีแนวโน้มที่จะมีผลต่อความสัมพันธ์ทางการค้าโลกและเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่มีอยู่
ซึ่งยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายนที่จะเผยแพร่ในวันอังคารนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ผลกระทบของมาตรการภาษีรอบก่อนหน้านี้ต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วสหรัฐฯ ตัวเลขดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการคาดการณ์การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)
ข้อมูลจากบลูมเบิร์ก คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ทั่วไปในเดือนมิถุนายน จะเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจาก 2.4% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จาก 0.1% ในเดือนก่อนหน้า
ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน คาดว่าจะอยู่ที่ 2.9% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบรายปีจาก 2.8% ในเดือนพฤษภาคม และคาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่า 0.1% ในเดือนพฤษภาคม
อีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนจับตาคือความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทรัมป์และเฟดเมื่อวันอาทิตย์
ที่ผ่านมา เควิน แฮสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ ABC News ว่าทรัมป์สามารถปลดเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด “ได้หากมีเหตุผล”
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการจำนวนมากที่เตรียมเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ธนาคารใหญ่ๆ รวมถึง JPMorgan Chase จะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสเริ่มตั้งแต่วันอังคาร
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเล็กน้อย โดยหุ้นรถยนต์ที่อ่อนไหวต่อภาษีนำเข้าปรับลดลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปอย่างหนัก แม้หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะช่วยจำกัดการปรับลงได้ก็ตาม
ตลาดในภูมิภาคปิดบลบยกเว้นตลาดอังกฤษ โดยดัชนี FTSE พุ่งขึ้นอย่างมาก จากหุ้น AstraZeneca ที่เพิ่มขึ้น 2% หลังจากที่บริษัทระบุว่า ยา Baxdrostat ซึ่งเป็นยาทดลองของบริษัท สามารถลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญในระยะทดลองขั้นสุดท้ายของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ดื้อต่อการรักษา
กลุ่มรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดในยุโรป ได้แก่ BMW, Volkswagen และ Mercedes-Benz ของเยอรมนี ซึ่งต่างลดลงราว 2% เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่เพิ่มมากขึ้น
สหภาพยุโรปกล่าวหาสหรัฐฯต่อต้านความพยายามที่จะตกลงข้อตกลงการค้า และเตือนถึงมาตรการตอบโต้หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ เพื่อให้ถูกเก็บภาษีศุลกากรประธานาธิบดี ทรัมป์ขู่ว่าจะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม
หุ้นของบริษัทผลิตสุรา Pernod Ricard และ Remy Cointreau ที่ได้รับผลกระทบจากสหรัฐฯ ลดลง 1.2% และ 3.4% ตามลำดับ
ธนาคารในยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งช่วยจำกัดการปรับลงในวงกว้าง โดยธนาคารในอิตาลีอย่าง Banco BPM, BPER Banca และ Banca Popolare di Sondrio เพิ่มขึ้นในช่วง 5% ถึง 6%
นักลงทุนจับตาฤดูกาลการรายงานผลการดำเนินงานของยุโรปที่จะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ โดย ASML ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมรายงานผลประกอบการในวันพุธ รวมทั้งรอการรายงานข้อมูลอัตราผู้บริโภครายเดือนจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยูโรโซนโดยรวมจะมีขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 546.99 จุด ลดลง 0.35 จุด, -0.06%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,998.06 จุด เพิ่มขึ้น 56.94 จุด, +0.64%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,808.17 จุด ลดลง 21.12 จุด, -0.27%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,160.64 จุด ลดลง 94.67 จุด, -0.39%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.47 ดอลลาร์ หรือ 2.15% ปิดที่ 66.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

