HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์และS&P 500 ปิดติดลบ ทรัมป์ขู่เพิ่มภาษีทองแดงนำเข้า 50% จัดเก็บภาษีเซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ยา ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวก และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
HoonSmart.com>>ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 8 ก.ค. 2568 ปิดที่ 44,240.76 จุด ลดลง 165.60 จุด หรือ -0.37% เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ หลังจากคำขู่เรื่องภาษีศุลกากรล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ความหวังเกี่ยวกับการเจรจากับคู่ค้าบางรายลดลง
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,225.52 จุด ลดลง 4.46 จุด, -0.07%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,418.46 จุด เพิ่มขึ้น 5.95 จุด, +0.03%
นักลงทุนตามสัญญาณที่ขัดแย้งกันจากประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการค้าไม่ทัน เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ได้เลื่อนกำหนดเส้นตายภาษีศุลกากรจาก 9 ก.ค.เป็นวันที่ 1 ส.ค. ต่อมาในวันเดียวกันได้กล่าวว่ากำหนดเส้นตายใหม่นั้น “ไม่แน่นอน 100%”
อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์บน Truth Social ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือขยายเวลาออกไปสำหรับวันที่ 1 ส.ค. ในวันเดียวกันนั้น ทรัมป์ดูเหมือนจะขยายสงครามการค้าโลกให้กว้างขึ้นอีกด้วยการประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีทองแดงนำเข้า 50% และในขณะเดียวกันก็กล่าวว่าการจัดเก็บภาษีเซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ยาที่เคยขู่ไว้มานานจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาการค้ากำลังดำเนินไปด้วยดีกับสหภาพยุโรปและจีน แต่ยังกล่าวอีกว่าอีกไม่กี่วันก็จะส่งจดหมายภาษีศุลกากรไปยังสหภาพยุโรปแล้ว
นักลงทุนกำลังรอความชัดเจนเพิ่มเติม โดยหลายคนคาดว่าอัตราภาษีศุลกากรขั้นสุดท้ายจะไม่เข้มงวดเท่ากับที่ทรัมป์ขู่ไว้
ขณะที่นักลงทุนกำลังรอการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนก.ค. ก็น่าจะรู้สึกโล่งใจหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช้กฎหมายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมถึงนโยบายภาษีที่เอื้อต่อธุรกิจบางส่วน
นอกจากนี้นักลงทุนรอการเผยแพร่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)เดือนมิ.ย.ในวันพุธ ซึ่งอาจทำให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าเฟดอาจกลับมาดำเนินรอบการผ่อนคลายนโยบายเมื่อไร
ในบรรดากลุ่มอุตสาหกรรมหลัก 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 มีเพียง 5 กลุ่มเท่านั้นที่ปรับขึ้น ดัชนีพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 2.72% ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและสาธารณูปโภคปรับตัวลดลงกว่า 1% ในวันนี้
หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 1%และมูลค่าตลาดใกล้ถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ แต่กลุ่มธนาคารกดดันตลาด หลังจาก HSBC แนะนำท่าทีระมัดระวังมากขึ้นกับธนาคารขนาดใหญ่ หุ้น JPMorganและ Bank of America ลดลง 3% ขณะที่ Goldman Sachs ลดลงเกือบ 2%
สำหรับหุ้นรายตัวอื่นๆ บริษัททองแดงของสหรัฐฯ อย่าง Freeport-McMoRan ได้ประโยชน์จากแนวคิดเรื่องภาษีนำเข้าทองแดงที่สูง โดยราคาหุ้นปิดตลาดเพิ่มขี้น 2.5%
หุ้น Moderna ปรับขึ้นสูงสุดในดัชนี S&P 500 โดยพุ่งขึ้น 8.8% หลังจากองค์กรทางการแพทย์ชั้นนำยื่นฟ้องโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐฯ และกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ จากการที่ระบุว่านโยบายวัคซีน COVID-19 ในปัจจุบันก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และพลังงาน ขณะที่นักลงทุนประเมินการดำเนินการล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่จะประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากร ซึ่งรวมถึงกำหนดเส้นตายใหม่สำหรับข้อตกลงทางการค้า
ดัชนี STOXX 600 ของยุโรปปิดตลาดปรับขึ้น 0.4% แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 545.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด, +0.41%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,854.18 จุด เพิ่มขึ้น 47.65 จุด, +0.54%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,766.71 จุด เพิ่มขึ้น 43.24 จุด, +0.56%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,206.91 จุด เพิ่มขึ้น 133.24 จุด, +0.55%
หุ้นขนาดเล็กของเยอรมนีพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้น Salzgitter ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กกล้าที่พุ่งขึ้น 20% หลังจากเยอรมนีอนุมัติให้ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้า Secure 500 ของบริษัทนำไปใช้ในทางทหาร
หุ้นพลังงานขนาดใหญ่พุ่งขึ้น 1.1% จากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น และหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์เพิ่มขึ้น 0.8% โดยหุ้น Novo Nordisk ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาสัญชาติเดนมาร์ก และเป็นบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในดัชนี STOXX 600 พุ่งขึ้น 2%
ส่วนประเด็นภาษีศุลกากรล่าสุด เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ได้แจ้งต่อ 14 ประเทศว่า จะจัดเก็บภาษีศุลกากรตั้งแต่ร้อยละ 25 สำหรับประเทศต่างๆ รวมทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ไปจนถึงร้อยละ 40 สำหรับลาวและเมียนมา
อย่างไรก็ตาม การเลื่อนกำหนดเส้นตายภาษีศุลกากรออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม ส่งผลให้มีเวลา 3 สัปดาห์ให้ประเทศต่างๆเจรจาเงื่อนไขที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเงื่อนไขการค้าเพิ่มขึ้น
สำหรับยุโรป แหล่งข่าวในสหภาพยุโรปที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เปิดเผยกับรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯจะไม่ส่งจดหมายจากที่กำหนดอัตราภาษีที่สูงขึ้นให้สหภาพยุโรปและสหภาพยุโรปอาจได้รับยกเว้นภาษีพื้นฐานของสหรัฐฯ ที่ 10% อีกด้วย
การคาดการณ์ผลประกอบการล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในยุโรปมีแนวโน้มแย่ลง โดยบริษัทต่างๆ คาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ลดลงโดยเฉลี่ย 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามข้อมูลของ LSEG I/B/E/S
ฤดูกาลรายงานผลประกอบการของยุโรปจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า โดย ASML ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก จะเป็นรายแรกที่รายงานผลประกอบการ
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 68.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 70.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

