กดปุ่ม “Corporate Value Up”+ “JUMP+”  หนุน บจ. ไทยเติบโตยั่งยืน-เพิ่มความเชื่อมั่น

HoonSmart.com>>หน่วยงานภาคตลาดทุนจับมือร่วมยกระดับบจ. เสริมแกร่งสร้างโอกาสการเติบโต ผ่าน โครงการ “Corporate Value Up” โดย ก.ล.ต. และ “JUMP+” โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ  วางงบ 500 ล้านบาท ที่ปรึกษาการเงิน 10 แห่ง ช่วย 50-100 บริษัท ทำแผน 3 ปี เริ่มนับผลงานปี’69 ทำดีมีโบนัส

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ตลาดทุนในเอเชียกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านผลตอบแทนและความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุน หลายประเทศจึงเริ่มขับเคลื่อนนโยบายการสร้างมูลค่าของกิจการในระยะยาว หรือ “Value Up” เพื่อยกระดับธรรมาภิบาลสร้างคุณค่าในระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้น

ขณะที่ ประเทศไทยกำลังยืนอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ หากต้องการให้บริษัทจดทะเบียนเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านสู่แนวทาง Value Up คือโอกาสสำคัญ

ก.ล.ต. จึงผลักดันโครงการ “Corporate Value Up” ให้เป็นกลไกหลักในการยกระดับธรรมาภิบาลของภาคธุรกิจไทยทำหน้าที่เป็น ‘กรอบกลยุทธ์’ และ ‘กลไกส่งสัญญาณตลาด’ โดยเชื่อมโยงกับการออกแบบแรงจูงใจเชิงนโยบายผ่านกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และโครงการ JUMP+ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านเชิงระบบอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การสร้างตลาดทุนไทยที่แข็งแกร่ง น่าเชื่อถือ และยั่งยืนในระดับสากล

สำหรับโครงการ “Corporate Value Up” ภายใต้กรอบแนวคิดหลักที่ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่

(1) ธรรมาภิบาลระดับดีเลิศ

(2) แผน Value Up ที่ชัดเจนทั้งด้านแผนกลยุทธ์มุ่งเน้นเพิ่มมูลค่ากิจการและแผนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ระยะเวลาภายใน 2 ปี และ

(3) การสื่อสารกับนักลงทุนอย่างโปร่งใส หากบริษัทจดทะเบียนมีองค์ประกอบครบถ้วนจะมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์เป็นหลักทรัพย์ที่ Thai ESG หรือ Thai ESGX สามารถลงทุนได้ ซึ่งปัจจุบันมี 2 บริษัทที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติดังกล่าวแล้ว

” เป็นกลไกเร่งให้เกิดวัฒนธรรมการสร้างมูลค่าบริษัทจดทะเบียน นักลงทุนไทย ตลาดทุนไทยต้องอยู่รอดจากการทำดีของทุกคน”นางพรอนงค์ กล่าว

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ริเริ่มโครงการ “JUMP+” สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนพัฒนาการดำเนินงานและการขับเคลื่อนความยั่งยืน เพื่อประโยชน์แก่บริษัทจดทะเบียน ผู้ถือหุ้น และตลาดทุนโดยรวม

บริษัทต้องทำแผน JUMP+ ประกอบด้วยแผนด้านธุรกิจ แผนด้านธรรมาภิบาล  และแผนจัดการก๊าซเรือนกระจก

ตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนของ บจ. ที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ ค่าใช้จ่ายสำหรับการว่าจ้างที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจุบันมี 10 บริษัท โดยบจ.จะได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) รายละ ให้บริษัทละ 5 ล้านบาท

การขยาย visibility ทั้งในและต่างประเทศผ่านกิจกรรม roadshow กิจกรรม Opportunity Day

การจัดทำบทวิเคราะห์ และโปรโมทผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตร

การที่บริษัทจดทะเบียนดำเนินการตามแผนดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่ง กระตุ้นการเติบโต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดทุนไทยด้วย เชื่อว่าในปีแรกจะมีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 100 บริษัท เพราะจากจำนวนผู้เข้ารับฟังโครงการวันแรกมากถึง 280 บริษัท

“เรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษี ขณะนี้ยังไม่มี แต่มีสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ทางตลาดหลักทรัพย์จะหาอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายใต้ตลาดทุนไทย แต่ก็ยังไม่ได้ทิ้งเรื่องของภาษีไปซะทีเดียว”นายอัสสเดช กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทที่ร่วม JUMP+ จะได้เข้าสู่โครงการ “Corporate Value Up” หากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ของ สำนักงาน ก.ล.ต.

โครงการ “JUMP+” เป็นโครงการระยะยาว โดยบริษัทที่ร่วมโครงการจะมีการจัดทำแผนการเติบโต 3 ปี (2569-2571) เปิดเผยเป้าหมายและแผนงานให้ไปสู่เป้า เปิดเผยความคืบหน้า และสื่อสารกับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการ ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ

โครงการ Jump+ จะช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงข้อมูลแผนการเติบโตของบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งทราบถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง อาทิ Opportunity Day ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพในการเติบโต

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีแผนในการจัดกิจกรรม Jump+ Corporate Day เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนมาพบกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมโครงการ Jump+ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุน ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบการตัดสินใจลงทุน

ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มเห็นแผนงาน Jump+ ของบริษัทจดทะเบียน ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 เป็นต้นไป และจะสามารถติดตามการดำเนินงานตามแผนงานของบริษัท ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2569

การดำเนินทั้ง 2 โครงการคือ “Corporate Value Up” และ “JUMP+” อย่างควบคู่ต่อเนื่องกัน สะท้อนถึงการที่หน่วยงานภาคตลาดทุนคือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. มีความมุ่งหมายที่ตรงกัน ในการพัฒนาคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งนอกจากจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของตลาดทุนแล้ว การที่บริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง ยังส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศด้วย

สำหรับบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดทั้งสองโครงการ ได้ที่

Corporate Value Up https://www.set.or.th/th/market/information/securities-list/thaiesg

JUMP+ https://www.set.or.th/th/market/information/jump-plus/overview