HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวโน้มดัชนีทรงตัว กรอบแนวรับ 1,095 – 1,100 จุด แนวต้าน 1,115 – 1,120 จุด หลังฟื้นตัวตอบรับข่าวหยุดยิงของอิหร่าน – อิสราเอล รอประเมินสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองช่วงสุดสัปดาห์นี้ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ปิดลบจากแรงขายทำกำไร แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มท่องเที่ยวและขนส่ง ,กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์รับส่งออก Q2/68 โต พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น SCGP, NETBAY
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,095 – 1,100 จุด แนวต้าน 1,115 – 1,120 จุด หลังดัชนีได้ฟื้นตัวตอบรับข่าวการหยุดยิงของอิหร่าน – อิสราเอลระดัขหนึ่งแล้ว และยังรอประเมินสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มท่องเที่ยวและขนส่ง เช่น MINT,CENTEL,ERW,AAV,BA ได้ประโยชน์จาก มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว , กลุ่มอิเล็ก ฯ CCET,HANA,KCE จากยอดส่งออกสินค้ากลุ่มอิเล็ก ฯ ในช่วง Q2/68 ยังขยายตัวได้ดี
ส่วนผลการประชุม กนง.วานนี้มีมติ 6 – 1 คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% และได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์ GDP ไทยปีนี้จากเดิมคาดที่ 2.0% เป็น 2.3% โดย GDP ไทยในครึ่งปีแรกนี้คาด +2.9% เป็นผลจากการส่งออกขยายตัวดีกว่าคาด แต่ยังมีแนวโน้มชะลอตัวในข่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งทาง กนง.พร้อมใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่งผลให้ตลาดยังคาดมีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานนี้ DJIA -0.25%, S&P500 -0.0%, Nasdaq +0.31% ปรับลดลงจากแรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับขึ้น 2 วันทำการตอบรับข่าวอิหร่าน – อิสราเอลหยุดยิง แต่ Nasdaq ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.18% นำโดย Nvidia +4.3% ส่งผลให้มูลค่าตลาดปรับขึ้นไปอยู่ที่ 3.77 ลล.ดอลลาร์
ส่วนถ้อยแถลงของ ประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการการเงินวุฒิสภานั้น ยังคงเน้นรอประเมินผลกระทบจาก มาตรการภาษีศุลกากร ก่อนจะตัดสินใจลดดอกเบี้ย โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 67% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม ก.ย. นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, US GDP Q1/68 และวันศุกร์ US PCE พ.ค.คาด 2.5% & เม.ย. 2.6% YoY
หุ้นเด่นแนะนำ SCGP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 16.50 บาท) บริษัทรายงานกำไร 1Q68 ที่ 900 ล้านบาท ดีขึ้น QoQ แต่ยังลดลง YoY หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นรวมที่ฟื้นตัว แนวโน้มผลประกอบการ 2Q68 มีโอกาสฟื้นตัว QoQ ต่อเนื่องหนุนจากปริมาณขายบรรจุภัณฑ์ในเวียดนามและอินโดนีเซียที่ฟื้นตัวหลังผ่านช่วงเทศกาล ขณะที่ผลขาดทุนของ Fajar เริ่มลดลง ส่วนใน 2H68 แนวโน้มกำไรอาจจะอ่อนตัวตามปัจจัยฤดูกาลเทียบกับ 1H68 แต่ถ้าเทียบปีก่อนน่าจะกลับมาโต YoY จากฐานที่ต่ำ
สำหรับภาพรวมทั้งปี 68 ตลาดคาดกำไรสุทธิ 3.5 พันล้านบาท -5%YoY ยังคงได้รับผลกระทบจากการเพิ่มสัดส่วนใน Fajar และต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนในปี 69 คาดกำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตขึ้นเป็น 4.3 พันล้านบาท +22%YoY หนุนจาก Fajar ทีเริ่มกลับมาเป็นกำไรได้
หุ้น NETBAY* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24.65 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 71 ลบ. (+49%YoY , +12%QoQ) ตามรายได้การดำเนินงานที่สูงขึ้น +41%YoY มีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการรับรู้รายได้งานโครงการพัฒนาระบบ Digital Zoo แลธดครงการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มกลางการจัดเก็บฐานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ การดำเนินงานช่วงถัดไป คาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อจาก Fynnet Ventures (ให้บริการ Compliance Solution ผ่านแพลตฟอร์ม CHECK+) และ Ai-Box ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี 68 และ69 กำไรสุทธิของ NETBAY* จะอยู่ที่ 247 ล้านบาท (+14%YoY) และ 272 ล้านบาท (+10%YoY) ตามลำดับ
