HoonSmart.com>>หุ้นบัตรกรุงไทย (KTC) รอดพ้นจากดิ่งฟลอร์วันที่สาม ฝีมือรายใหญ่ช่วยซื้อยกล็อต 90.50 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 19.34 บาท/หุ้น มูลค่ารวม 1,750 ล้านบาท ดันราคาปิด 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 6% ฟันกำไรวันเดียวตั้งเยอะ 647.98 ล้านบาท ด้านธนาคารกรุงไทย(KTB) ถือ 49.29% ได้ประโยชน์ด้วย หลังเจอสองฟลอร์มูลค่าหุ้นหายไป 12,391 ล้านบาท ส่วนหุ้นในกลุ่มที่ถูกฟอร์ซเซล TPS แกร่ง ตีบวก 10% XPG ฮึดสู้ ติดลบ 10% BEC ดิ่งฟลอร์ 3 วัน มาร์เก็ตแคปทรุด 3,660 ล้านบาท
ตลาดหุ้นวันที่ 25 มิ.ย. 2568 แรงบังคับขายหุ้น (ฟอร์ซเซล) ยังคงหลอกหลอนนักลงทุนต่อไป แต่ยังใจชื้นที่ราคาหุ้นบริษัทบัตรกรุงไทย (KTC) ไม่ได้เปิดที่ฟลอร์เหมือนเมื่อ 2 วันก่อน (23-24 มิ.ย.68) เพราะมีการซื้อขายยกล็อตเกิดขึ้น ทำให้เจ้าหนี้ของ”มงคล ประกิตชัยวัฒนา” ที่เป็นโบรกเกอร์ลูกครึ่งอย่างน้อย 2 รายไม่จำเป็นต้องเทกระจาดในตลาด ส่งผลให้ราคาหุ้น KTC ตีตื้นขึ้นมาปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท ปรับตัวขึ้น 6 % หลังจากเกิดการซื้อขายบิ๊กล็อต 9 รายการ รวม 90.50 ล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขาย 1,750 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 19.34 บาทต่อหุ้นต่ำกว่าตลาด ปิดวันก่อนหน้าที่ 25 บาท ถึง 5.66 บาท คิดเป็นประมาณ 22.64%
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายตลาด มีการซื้อขายหุ้นบิ๊กล็อตเพิ่มขึ้น โดยรวมวันนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 14 รายการ รวม 129.20 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 2,672.84 ล้านบาท ที่ราคาเฉลี่ย 20.69 บาท/หุ้น ต่ำกว่าที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ส่วนหุ้นในกลุ่มที่ถูกบังคับขาย TPS ฟื้นขึ้นมาปิดที่ 2.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท ปรับขึ้น 10.08% XPG พยายามจะบวก แต่สุดท้ายต้านแรงขายไม่ไหวปิดที่ 0.45 บาท ลดลง 0.05 บาทหรือ-10% มีเพียง BEC ที่ยังคงดิ่งฟลอร์วันที่สาม ปิดที่ 1.83 บาท -0.79 บาทหรือ -30.15% รวมมาร์เก็ตแคปทรุดลง 3,660 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยตัวผู้ซื้อบิ๊กล็อตหุ้น KTC แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดผลกระทบกับราคาหุ้นในกระดาน หากวันนี้ยังคงติดฟลอร์ที่ 30% ราคาจะต้องลงไปลึกถึง 18.60 บาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นทุกราย โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทย (KTB) ถือหุ้นใหญ่ 49.29% 2 วันที่ดิ่งฟลอร์ มูลค่าหุ้นหายไปแล้ว 12,391.3 ล้านบาท
นางพิทยา วรปัญญาสกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) ชี้แจงถึงพัฒนาการที่สำคัญรวมถึงสร้างความเข้าใจให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย ราคาหุ้น KTC ได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง วันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะเป็นไปตามปัจจัยภายนอกและกลไกการซื้อขายหุ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้รับการสอบถามจากหลายภาคส่วนอย่างต่อเนื่องถึงการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนั้น เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียอย่างเท่าเทียมกัน ขอยืนยันว่า ปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ไม่มีเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและฐานะทางการเงินแต่อย่างใด
บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานด้วยความโปร่งใส หากมีข้อมูลที่มีสาระสำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ จะเปิดเผยข้อมูลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เท่าเทียม และทันเวลาต่อไป บริษัทฯขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียที่ให้ความไว้วางใจแก่บริษัทฯ เสมอมา
นาย บุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ กรณีราคาหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ และได้รับการสอบถามจากผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสีย เกี่ยวกับสถานะการดำเนินงานของบริษัทฯ ขอชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเป็นผลจากปัจจัยภายนอกและสภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ และไม่ได้เกิดจากข้อมูลภายใน หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสีย บริษัทฯ ขอยืนยันว่าไม่มีข้อมูลภายในที่มีนัยสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน การดำเนินธุรกิจ ยังคงเป็นไปตามปกติและสอดคล้องกับแผนธุรกิจที่กำหนดไว้ โดยฐานะทางการเงินยังคงมีความมั่นคง และบริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี กฎเกณฑ์และข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
ด้านตลาดหุ้นโดยรวม รีบาวด์ช่วงบ่ายหนุนดัชนีปิดบวก 7.68 จุด ที่ระดับ 1,107.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,662.66 ล้านบาท ตลาดได้แรงซื้อกลุ่มค้าปลีก-ท่องเที่ยว หนุนจากมาตรการรัฐ กนง.มีมติคงดอกเบี้ยตามคาด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,651 ล้านบาท กองทุนซื้อ 1,200 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 3,708.90 ล้านบาท