ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 600 จุด เฟดส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 600 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย พร้อมคาดหวังสหรัฐฯและจีนเจรจาการค้าลงตัว ด้านตลาดหุ้นยุโรปิดแดนบวกและลบคละกัน ส่วนราคาน้ำมันดิบลด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ที่ 25,366.43 จุด เพิ่มขึ้น 617.70 จุด หรือ 2.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากสุดของวันในรอบ 8 เดือน หลังจากประธานธนาคารกลาง (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ส่งสัญญานว่าอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้ระดับเป็นกลาง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายพาวเวลล์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยยังต่ำเมื่อเทียบกับมาตรฐานของช่วงที่ผ่านมา และยังคงต่ำกว่าระดับที่จะเป็นกลางต่อเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีผลที่จะกระตุ้นหรือชะลอการเติบโต และยังกล่าวอีกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้สมดุลกับความเสี่ยง และรู้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไป จะมีความเสี่ยงต่อการขยายตัวและรู้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป ดังการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเกินไปในระยะเวลานานเกินไปจะมีความเสี่ยงทำให้เงินเฟ้อบิดเบือน

คณะกรรมการ FOMC มีกำหนดการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 19 ธันวาคม 2561 หลังจากการประชุมวันที่ 8 พฤศจิกายน ได้ตัดสินใจคงอัคราดอกเบี้ย และในปีนี้เฟดได้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นแล้ว 3 ครั้งมาอยู่ที่ 2-2.25%

นักลงทุนยังคลายกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ แสดงความวิตกต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามการค้าที่ยาวนาน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การประนีประนอมทางการค้ากับจีน

ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 3.5% แม้ต่ำกว่า 4.2% ในไตรมาส 2 แต่สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้น 4.89% หุ้รแคทเธอพิลลาร์เพิ่มขึ้น 5.0% หุ้น

หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 3.8% หุ้นยูไนเต็ดเทคโนโลยี่ คอร์ปเพิ่มขึ้น 3.6% หุ้นไมโครซอฟต์เพิ่มขึ้น 3.7% หุ้นเฟซบุ๊คเพิ่มขึ้น 1.3% หุ้นเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้น 6.01%

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,743.79 จุด เพิ่มขึ้น 61.62 จุด,+2.30%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,291.59 จุด เพิ่มขึ้น 208.89 จุด, +2.95%

ทางด้านตลาดยุโรปปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนพยายามถอดสัญญานความเป็นไปได้ในการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีกำหนดพบปะกับ ประธานาธิบดีสี่ จิ้น ผิง ของจีนระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G-20 ในปลายสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันยังเกาะติดการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์จะนำเสนอข้อตกลงที่อังกฤษมีกับสหภาพยุโรปสหรัฐเข้าสภาที่จะประชุมพิจารณาในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 นี้ เพราะสภามีการแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ตลาดยังเกาะติดการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลาง(เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ และผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ มาร์ค คาร์นียที่จะมีขึ้นหลังปิดตลาด

ธนาคารกลางอังกฤษยังเผยผลการทดสอบ stress test ซึ่งพบว่า ภาคการเงินยังมีความเข้มแข็ง และในกรณีที่เลวร้ายสุดหากต้องถอนตัวออกจากอียูแบบไม่มีเงื่อนไข จีดีพีของอังกฤษจะลดลงราว 7.75%-10.5% ในสิ้นปี 2023

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,004.52 จุด ลดลง 12.33 จุด,-0.18%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 357.39 จุด ลดลง 0.01 จุด, 0.00%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,983.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.090 จุด,+0.0018%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,298.88 จุด ลดลง 10.23 จุด, -0.090%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 1.27 ดอลลาร์หรือ 2.5% ปิดที่ 50.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 1.45 ดอลลาร์หรือ 2.4% ปิดที่ 58.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล