HoonSmart.com>>กระทรวงสาธารณสุขร่วมมือ รพ.วชิระภูเก็ต บริษัท เมดีซ กรุ๊ป เดินหน้าพัฒนาโครงการ ATMPs Sandbox มุ่งเป้าสร้างนวัตกรรมการแพทย์ขั้นสูงในประเทศ ระยะเวลา 10 ปี รวมขั้นต่ำ 20 งานวิจัย ลดการพึ่งพาการนำเข้า พร้อมนำร่องรักษา 3 โรคเพิ่มโอกาสคนไทยเข้าถึงการรักษาที่ทันสมัย
นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โครงการ Advanced Therapy Medicinal Products Sandbox (ATMPs Sandbox) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบต้นแบบของการผลิตและใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapy Medicinal Products: ATMPs) ที่ได้มาตรฐานสากลและสามารถนำมาใช้จริงในระบบสาธารณสุขไทย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสมไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ คณะกรรมการโครงการฯ ได้คัดเลือก บริษัท เมดีซ กรุ๊ป หรือ MEDEZE เป็นบริษัทเดียวในการนำร่อง เพราะมีมาตรฐานสูง ตอบโจทย์นโยบายภาครัฐ ในการกระตุ้นให้ประเทศไทยเป็น Medical wellness hub มีคุณสมบัติพร้อมสุด โดยจะใช้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็น “สถานพยาบาลนำร่อง” เพื่อดำเนินการวิจัย ทดลอง และให้บริการทางการแพทย์ โดยอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และบริษัทเอกชนที่มีความพร้อมสูง
“จุดเริ่มต้นของ Sandbox ทางการแพทย์ เพื่อ “แพทย์ไทยก้าวไกล คนไทยเข้าถึงได้” เป็นโครงการ ATMPs Sandbox ซึ่งมีแนวทางสำคัญของกระทรวงฯ ในการผลักดันให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตและวิจัยผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูงด้วยตนเอง โดยไม่เพียงเน้นการรักษา แต่ครอบคลุมถึงการส่งเสริม ป้องกัน และควบคุมโรคอย่างแม่นยำตามแนวทาง Precision Medicine ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการยกระดับมาตรฐานระบบสุขภาพไทยอย่างยั่งยืน หวังว่า ATMPs Sandbox จะนำไปสู่การขึ้นทะเบียนยาได้ และจะเป็นยาของคนไทย เพื่อนำมาช่วยรักษาคนไทยได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น” นายแพทย์ปิยะ กล่าว
นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ในโครงการ ATMPs Sandbox ทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตจะเป็นศูนย์กลางในการประเมิน ประยุกต์ใช้ และให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูงที่ได้รับการพัฒนาภายใต้ Sandbox นี้ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ พร้อมห้องปฏิบัติการมาตรฐานสูงของบริษัท เมดีซฯ และความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแพทย์ในการศึกษาวิจัยควบคู่กันไป
โครงการ ATMPs Sandbox จะเริ่มต้นการพัฒนาและทดลองใช้จริงกับ 3 กลุ่มโรคสำคัญ ซึ่งเป็นความท้าทายทางสุขภาพของคนไทยจำนวนมาก ได้แก่
1. โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม – ใช้เทคโนโลยีเซลล์บำบัดโดยการใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากไขมันของตัวเองเพื่อฟื้นฟูเนื้อเยื่อและลดการเสื่อมของหมอนรองกระดูก ลดอาการปวดหลังเรื้อรังโดยไม่ต้องผ่าตัด
2. กลุ่มโรคผิวหนังและการชะลอวัย – นำเซลล์ต้นกำเนิดจากไขมันของตัวเองมาใช้ในการฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดริ้วรอย และฟื้นฟูผิวหนังในเชิงลึก
3. มะเร็งลำไส้ – พัฒนาเทคโนโลยีภูมิคุ้มกันบำบัดเฉพาะจุด โดยการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันหรือ NK Cell ในการบำบัด เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิต
“ในโครงการนี้ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป เป็นบริษัทเอกชนเพียงรายเดียวที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ ATMPs Sandbox โดยผ่านการประเมินจากคณะกรรมการโครงการฯ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ Sandbox ด้านผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง จึงมั่นใจได้ว่า โครงการฯ นี้จะเป็นอนาคตของวงการแพทย์ไทยขั้นสูงอย่างยั่งยืน” นายแพทย์ปิยะ กล่าว
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป หรือ MEDEZE กล่าวว่า บริษัทฯมีความพร้อมทั้งในด้านเทคโนโลยี วิจัย และการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง มีห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐาน พร้อมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในสายงานชีวเวชภัณฑ์ เชื่อว่า Sandbox คือก้าวสำคัญในการนำผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนยาในการใช้ทุกสถานพยาบาล เพื่อมารักษาคนไทยได้อย่างกว้างขวาง
“บริษัทจะรับผิดชอบด้านการจัดหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ATMPs ทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับเซลล์บำบัด หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยอื่น ๆ พร้อมสนับสนุนบุคลากรและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 10 ปีของโครงการ” นายแพทย์วีรพล กล่าว
ทั้งนี้ โครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินการครอบคลุม 10 ปี รวมขั้นต่ำ 20 งานวิจัย โดยมีนวัตกรรมขั้นสูงของ MEDEZE ช่วยสนับสนุน ซึ่งมีแผนการต่อยอดจากการทดลองสู่การใช้งานในระบบสาธารณสุขจริง ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงนวัตกรรมการแพทย์ขั้นสูงในราคาที่เหมาะสม ผลิตในประเทศ ไม่ต้องรอนำเข้าจากต่างประเทศอีกต่อไป
