HoonSmart.com>> 8 โบรกเกอร์เห็นพ้องศาลการค้าเบรกมาตรการภาษีของ”ทรัมป์” ส่งผลดีต่อตลาดหุ้น และบรรดาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ชูเด่นกลุ่ม Global Play, China Play และ Commodity ไม่ว่าจะเป็นส่งออก อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี น้ำมัน นิคมอุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง ท่องเที่ยว ยางพารา เชียร์ AMATA, ROJNA, SAPPE, MEGA, ICHI, BH, STA, AOT, ITC, TU, BDMS, KCE, HANA, PTT, PTTEP, CCET, IVL, SCC, DELTA
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า เช้านี้ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯได้ตัดสินสั่งระงับการจัดเก็บภาษีเท่าเทียมของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 โดยระบุว่าใช้อำนาจเกินขอบเขตที่กฎหมาย International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) ปี 1977 ที่กำหนดไว้ผลคือภาษีนำเข้าที่สหรัฐทรัมป์ประกาศถูกยกเลิกทันทีอย่างไรก็ตามรัฐบาลสหรัฐสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินได้ต่อศาล(เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม) ผลต่อตลาดหุ้นและสินทรัพย์
แม้ทรัมป์จะยื่นอุทธรณ์แล้ว (ต่อ Court of Appeals for the Federal Circuit) และอาจไปถึงศาลสูงสุด (SCOTUS) แต่ระหว่างอุทธรณ์ ภาษี“ถูกยกเลิกแล้ว” และไม่มีผลบังคับเว้นแต่จะมีคำสั่ง “Stay of Judgment” ซึ่งขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น นี่คือ “สุญญากาศทางภาษี” (Legal Vacuum Period)
นอกจากนี้ มองว่า “ทรัมป์”อาจรีเซ็ตภาษีได้จริง แต่ต้องผ่านขั้นตอนราชการใหม่ทั้งหมด ดังนั้น “Liberation Tariff” จะไม่สามารถกลับมาได้เร็วกว่า 2–4 เดือนเป็นอย่างน้อย
โดยประเมินมองบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง และตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งหุ้นสหรัฐ และ SET Index วันนี้มองปรับขึ้น โดยหุ้นที่คาดจะได้ผลบวกจากภาษีนำเข้าถูกระงับ คือ กลุ่ม Global Play กลุ่ม Tech กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มน้ำมัน และกลุ่มนิคม
คำสั่งศาลการค้าสหรัฐฯ ระงับ Trump’s Tariff จุดเปลี่ยนของการลงทุนใน Emerging Markets และการ Reposition หุ้นไทย ทีมกลยุทธ์คาด มีโอกาสเห็น SET กลับสู่ระดับ 1,200-1,210 จุด ในระยะสั้น-ระยะกลาง โดยเน้นเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นลงลึกหลัง Reciprocal Tariff (2 เม.ย. 2568) และลงเพราะผลกระทบเรื่องนี้ และมีค่า +RSI ต่ำสะท้อนสภาวะ Oversold มองมีโอกาสฟื้นตัวไว ได้แก่ AMATA, ROJNA, SAPPE, MEGA, ICHI, BH, STA, AOT, ITC, TU, BDMS, KCE, HANA, PTT, PTTEP
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมิน SET Index ฟื้นตัว ปัจจัยบวกหลักของวันนี้ได้แก่ ศาลการค้านิวยอร์ก ตัดสินว่าการเก็บภาษี reciprocal tariff ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการใช้อานาจเกินขอบเขตส่งผลให้มีโอกาสที่มาตรการภาษีจะถูกยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนไป อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯมองว่าทำเนียบขาวจะยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าว
พร้อมแนะ”เก็งกำไร”หุ้น CCET เป้าพื้นฐาน 6.3 บาท Sentiment บวกจากกรณีศาลฯ ตัดสินการเก็บอัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯเกินอำนาจประธานาธิบดี ล่าสุดเช้านี้ศาลการค้าระหว่างประเทศของตัดสินว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้กฎหมายทางด้านเศรษฐกิจฉุกเฉินโดยมิชอบด้วยกฎหมายในการเรียกเก็บภาษีเกือบทุกประเทศทั่วโลก แม้คาดสถานการณ์ Trade war อาจจะยังยืดเยื้อ (อาจมีการอุทธรณ์ต่อ) แต่ระยะสั้นประเมินเป็น Sentiment บวกต่อราคาหุ้น และคาดจะรายงานยอดขายเดือน พ.ค. รีบาวด์ MoM ในต้นเดือนหน้า เป็นอีก Catalyst หนุน รวมถึง Valuation ยังไม่แพงหลังราคาพักฐานลงมา
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ศาลตัดสินนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมปื”ผิดกฏหมาย” หนุนการฟื้นตัวหุ้นทั่วโลก ประเมิน SET Index มีแนวโน้มฟื้นตัวในกรอบ 1,160-1,175 จุด หลังศาลการค้าระหวางประเทศตัดสินว่าการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าของทุกประเทศทั่วโลกผิดกฏหมาย โดยรัฐบาลสหรัฐฯสามารถยื่นอุทธรณ์ในขั้นตอนต่อไป พร้อมแนะเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการผ่อนลายของสงครามการค้า เช่น ส่งออก นิคมอุตสาหกรรม ปิโตรเคมี ท่องเที่ยว ยางพารา
บล.ทิสโก้ ระบุ ศาลการค้าของสหรัฐฯ ตัดสินว่า การขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของทรัมป์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่งให้ระงับการบังคับใช้ทันที อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากรัฐบาลทรัมป์ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว และทรัมป์อาจใช้วิธีการอื่นในการขึ้นภาษีการค้าแทน โดยมองภาษีการค้าผ่อนคลายหนุนกลุ่ม Global Play เชียร์”ซื้อ” IVL ราคาเป้าหมาย 27 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/2568 จะดีขึ้น QoQ และคาดกำไรทั้งปีที่ 8.08 พันล้านบาทพลิกจากขาดทุนปีที่แล้ว และปันผลปีละ 6%
นอกจากนี้ แนะนำ”ซื้อ” AMATA บริษัทยังคงเป้ายอดจองปีนี้ที่ 3.5 พันไร่ โดยทำได้แล้ว 750 ไร่จากการขายที่ดินล็อตใหญ่กับผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์จีน, แม้มีความไม่แน่นอนการค้า แต่ผู้บริหารเชื่อว่าการลงทุนจะกระจายแบบ “hybrid” ไม่ใช่ย้ายไปสหรัฐฯ ทั้งหมด ให้เป้าพื้นฐาน 35 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุ SCC และ DELTA ได้ Sentiment บวกจากศาลสหรัฐฯมีคำสั่งให้ระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของ”ทรัมป์” โดย SCC แนวโน้มไตรมาส 2/2568 ธุรกิจปูนโดดเด่น ปรับราคาขายขึ้น รับรู้เต็มไตรมาส ด้านราคาหุ้นยังเทรดในโซนต่ำ ส่วน DELTA คาดผลงานไตรมาส 2/2568 ยังสดใสจากการเร่งลงทุน AI และได้ Sentiment บวกจากเงินบาทอ่อนค่าวันนี้
บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า ตลาดหุ้นได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากศาลการค้าสหรัฐฯ ชี้มาตรการเก็บภาษีของทรัมป์ขัดต่อกฎหมาย คาดกระตุ้นแรงเก็งกำไรในตลาดหุ้นทั่วโลกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มส่งออกที่คาดผ่อนคลายมาตรการภาษี โดยวันนี้แนะนำ “CCET”
จากความคืบหน้าในประเด็นการเก็บภาษีของทรัมป์ ที่ถูกยื่นฟ้องจาก 12 รัฐในสหรัฐฯ พบว่า ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ได้มีคำตัดสินว่า มาตรการการเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกของทรัมป์ภายใต้ชื่อ “Liberation Day” ถือว่าขัดต่อกฎหมายและเกินขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดีภายใต้กฎหมาย IEEPA ดังนั้นประเด็นนี้น่าจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนการกลับมาเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้นในระยะสั้น และ Dollar มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่า แต่อย่างไรก็ดีด้านทรัมป์ยังสามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งคงต้องติดตามในช่วงถัดไป
บล.ดาโอ ระบุ ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ตัดสินให้ระงับมาตรการเก็บภาษีนำเข้าทั่วโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข่าวนี้ หนุนให้ตลาดหุ้น และราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ ปรับตัวขึ้น สำหรับของไทย คาดจะเป็นบวกโดยตรงต่อหุ้น Commodity
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวันนี้ น่าจะได้อานิสงค์จากคำสั่งศาลฯ ต่อมาตรการภาษีของTrump คาดระยะสั้น จะมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม commodity และกลุ่ม China Play หลังมองว่าเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณฟื้นตัว
บล.บัวหลวง มองคำตัดสินของศาลการค้า น่าจะเป็นแรงหนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับขึ้นได้ชั่วคราว โดยตลาดเอเชียส่วนใหญ่รวมถึง Dow Jones Future เปิดมาปรับตัวขึ้น ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำอาจโดนขายทำกำไรในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับขึ้นของตลาดหุ้นโลกอาจยังไม่ Sustain เนื่องจากดัชนีส่วนใหญ่ติดแนวต้าน
นอกจากนั้นภาพเศรษฐกิจมหภาคก็ยังไม่ได้สดใส รวมถึงการโหวต Tax Bill ของสหรัฐฯน่าจะเข้มขึ้นขึ้นในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ซึ่งจะสร้างความกังวลในฐานะการคลังของสหรัฐฯ โดยแม้ว่ารัฐบาลทรัมป์จะตั้งงบประมาณการใช้จ่ายปี 2569 ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2568 แต่คาดว่า ร่างงบประมาณหลายกระทรวงจะถูกปรับขึ้นในช่วงการเจรจา ทำให้งบประมาณร่ายจ่ายมีโอกาสสูงขึ้นกว่าร่างเอกสารในปัจจุบัน
———————————————————————————————————————————————————–

