“หุ้นเอเชีย”เช้านี้บวก จับตาบอนด์ยีลด์ วิตกฐานะการคลังประเทศหลัก

HoonSmart.com>>”ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ลดลงเล็กน้อย ด้าน “ตลาดหุ้นเอเชีย” ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น นักลงทุนยังระมัดระวังในการซื้อขายหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง ท่ามกลางความวิตกกังวลแนวโน้มทางการคลังของประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วขนาดใหญ่และรอความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าใหม่ๆ

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลงเล็กน้อย แม้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจาอัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับสูงขึ้น

ใน Prime Market กลุ่มที่นำการปรับตัวขึ้นคือ กลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มน้ำมันและถ่านหิน

เวลา 9.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอยู่ที่ 144.43-44 เยน เทียบกับ 144.45-55 เยนในตลาดนิวยอร์ก และ 144.12-14 เยนในตลาดโตเกียว เวลา 17.00 น. วันอังคาร

กระทรวงการคลังเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 115,800 ล้านเยน (802 ล้านดอลลาร์) ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 3 เดือน จากการส่งออกเพิ่มขึ้น 2.0%จากปีก่อน รวมมูลค่า 9.16 ล้านล้านเยน ถือเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ส่วนการนำเข้าลดลง 2.2% รวมมูลค่า 9.27 ล้านล้านเยน ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน
ญี่ปุ่นเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ 780,600 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 14.3% จากปีก่อน

ณ เวลา 9.58 น. เวลาในประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 37,491.8 จุด ลดลง 37.69 จุด, -0.1%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับขึ้น แต่นักลงทุนยังระมัดระวังในการซื้อขายจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มสูงขึ้น และยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มทางการคลังของประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วขนาดใหญ่ รวมไปถึงความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าใหม่ๆ

นักลงทุนจับตาตลาดพันธบัตรญี่ปุ่น หลังจากเมื่อวานนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 20 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการพันธบัตรของประเทศ หลังจากการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีที่อ่อนแอ

ในการซื้อขายช่วงเช้าวันพุธ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 20 ปีขยับขึ้น 2 จุด ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล JGB อายุ 30 ปีลดลง 1.5 จุด

ไคล์ รอดด้า นักวิเคราะห์ตลาดการเงินอาวุโสจาก Capital.com กล่าวว่า ตลาดต้องการปัจจัยใหม่ๆ ก่อนที่จะลงทุนเพิ่ม

ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีกำหนดจะประกาศนโยบายการเงินในช่วงบ่ายของวันนี้ ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 2024 และอีกครั้งในเดือนมกราคม 2025 แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.75% นับตั้งแต่นั้นมา

HSBC ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ด้วยการเติบโตที่อ่อนแอ ธนาคารกลางอินโดนีเซียอาจต้องเข้าสู่วัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่

“ด้วยเหตุผลหลายประการ เราเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มต้นวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินใหม่ในเดือนพฤษภาคม” นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกล่าว โดยอ้างถึงการเติบโตของ GDP ในไตรมาสแรกที่อ่อนแอและสกุลเงินที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,389.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.24 จุด, +0.28%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 23,851.97 จุด เพิ่มขึ้น 170.ภต จุด, +0.72%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 2,625.97 จุด เพิ่มขึ้น 24.17 จุด, +0.93%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 21,688.24 จุด เพิ่มขึ้น 162.21 จุด, +0.75%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 0.98 ดอลลาร์ หรือ 1.58% ปิดที่ 63.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.98 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ที่ 66.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล