HoonSmart.com>>”ซิกเว่ เบรกเก้” ประกาศ 3 ภารกิจ ขับเคลื่อน ทรู คอร์ปอเรชั่น ดันรายได้ปี’68 โต 3% EBITDA โต 10% ตามเป้า จ่อปันผลครึ่งปีหลัง นับหนึ่งเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่เทคคัมปานี เผยงบลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ทุ่มไปกับการย้ายระบบการทำงานเข้าระบบคลาวด์ พัฒนาเอไอให้ทุกคนใช้งานได้ สร้างการเติบเติบโตยั่งยืน
นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กล่าวว่า ครบ 2
ปีแห่งการผสานพลังระหว่างทรูและดีแทคได้เห็นศักยภาพอันเข้มแข็งจากการรวมความแข็งแกร่งของทั้งสององค์
กรส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างกำไร 1,633 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นครั้งแรกหลังควบรวม

“เราจะผลักดันการเติบโตให้ได้ตามเป้าหมาย และวางรากฐานในการเปลี่ยนผ่านจากบริษัทเทเลคอม สู่บริษัทเทคโนโลยี เพื่อรองรับมิติการแข่งขันที่คู่แข่งไม่ได้มีเพียงบริษัทเทเลคอมเท่านั้น ภายใต้ 3 ภารกิจหลักสำคัญ โดยที่ธุรกิจเทเลคอมก็ยังเติบโต ส่วนที่ธุรกิจเทคโนโลยีดิจิตอล จะทำให้รายได้และกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากยังคงเป็นบริษัทเทเลคอมอย่างเดียวจะโตแบบคงที่ วันนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งไม่ง่ายอาจจะใช้เวลาถึง 10 ปี แต่เป็นเป้าหมายของบริษัท ที่ต้องทำให้สำเร็จ เพื่อผลักดันบริษัทสู่ next level ซึ่งมีความเป็นไปได้เพราะมีบริษัทเทเลคอมทำสำเร็จมาแล้ว เช่นที่ยุโรป “นายซิกเว่ กล่าว
นายซิกเว่ กล่าวว่า ปี 2568 ได้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 2-3% จากปีที่ผ่านมา และ EBITDA โต 10% โดยยอมรับว่าเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำจากผลกระทบภาษีการค้า ส่งผลต่อรายได้ของบริษัท ซึ่งเป็นผลกระทบทางอ้อม แต่ทางตรงไม่กระทบ แม้จะมีการนำเข้าสินค้าบางอย่างจากต่างประเทศ ซึ่งในฐานะผู้นำในการขับเคลื่อน TRUE ต้องการทำให้รายได้และกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น โดยจะมีการพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินปันผลในครึ่งหลังของปี 2568
สำหรับ งบลงทุนปกติจำนวน 2.8-3 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการย้ายระบบการทำงาน ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเข้าไปอยู่บนระบบคลาวด์ และการพัฒนาเอไอ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ได้ มีความปลอดภัย และมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่สามารถทำเสร็จภายในปีเดียว
นายซิกเว่ กล่าวถึง 3 ภารกิจหลักสำคัญ ในการผลักดันการเติบโตของรายได้ กำไร และการเปลี่ยนผ่านสู่บริษัทเทคโนโลยี จะครอบคลุมมิติลูกค้า เทคโนโลยี และทีมงาน
“ผมเชื่อมั่นว่าภารกิจทั้ง 3 นี้จะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนความสำเร็จระยะยาว และช่วยให้ ทรู คอร์ปอเรชั่น
ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ได้รับความเชื่อใจจากลูกค้าอย่างแท้จริง “นายซิกเว่ กล่าว
นายซิกเว่ กล่าวว่า 3 ภารกิจสำคัญที่มุ่งสู่การเติบโต ประกอบด้วย
ภารกิจที่ 1. งานด้านลูกค้า จะสร้างแบรนด์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือและเชื่อใจ เพื่อก้าวสู่การเป็น Brand love โดยดำเนินการตามคำมั่นสัญญาและพันธกิจที่มีต่อลูกค้า นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
การสร้างประสบการณ์ลูกค้าเป็นหนึ่งเดียว โดยกำลังเร่งรวมระบบให้เป็นหนึ่งเดียวระหว่างลูกค้าทรูและดีแทค มุ่งเน้นให้การเปลี่ยนผ่านสู่ Digital touchpoint เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ พร้อมทั้งรวมแอปพลิเคชันทรู-ดีแทคเข้าด้วยกัน
การนำ AI มาใช้กับการบริการลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด ด้วยการพัฒนาประสบการณ์หลากหลายช่องทาง เชื่อมโยงการใช้งานทั้งแอปพลิเคชัน ศูนย์บริการลูกค้า และร้านค้าด้วย AI (chatbots, voice bots และผู้ช่วยพนักงาน) ทำการปรับปรุงการเข้าถึงพนักงานที่ศูนย์บริการและลดเวลาในการให้บริการและทันสมัยขึ้น
เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ทั้งของทรูและดีแทค ที่ใช้ AI ล้ำสมัยเพื่อเปลี่ยนธุรกรรมจากหน้าร้านสู่ดิจิทัล

รวบรวมระบบ IT หลัก (CRM, ERP, การเก็บเงิน)ให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ดิจิทัล ซึ่งทำไปได้ 87% แล้ว ซึ่งจะดำเนินการเสร็จสิ้นทั่วประเทศในไตรมาส 3 ของปี
และพัฒนาเครือข่ายที่เชื่อถือและรองรับอนาคต ให้ลูกค้าเชื่อใจในเครือข่ายในทุกสถานการณ์พร้อมพัฒนาให้ทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือชั้นและเดินหน้าต่อเนื่องในการเป็นผู้นำโทรคมนาคมและเทคโนโลยีชั้นนำของไทย โดยทำสำเร็จมาแล้วที่จ.ภูเก็ต เรียกว่า”ภูเก็ตโมเดล” เป็นจังหวัดแรกที่พัฒนาเครือข่ายสมัยใหม่เสร็จ 100% และเพิ่มโซลูชันเครือข่ายสู่ประสบการณ์ใหม่ของลูกค้าเป็นที่แรกและจะดำเนินการต่อไปในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
รวมถึง การรักษาฐานธุรกิจโทรคมนาคม ควบคู่กับการเติบโตในกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ด้วยการพัฒนาการให้บริการเครือข่ายต่อเนื่อง และนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการดิจิทัลใหม่ๆ ที่เหมาะสมและตรงกับลูกค้า
ภารกิจที่ 2 ด้านเทคโนโลยี มุ่งพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นภาษาไทยเพื่อไทยทุกคน (AI for all Thais) ที่จะพัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ เสริมสร้างความตระหนักรู้ แก่ภาคธุรกิจและประชาชนถึงศักยภาพอันทรงพลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการใช้งานจริงในวงกว้าง ซึ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาโซลูชัน แพลตฟอร์ม และบริการด้าน AI ภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
เร่งพัฒนา AI ให้เข้ามาช่วยงานด้านการวิเคราะห์เพื่อนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจลูกค้า ที่สามารถคาดการณ์การความต้องการได้ล่วงหน้า และนำเสนอในสิ่วที่มากกว่าสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง
พร้อมสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะผ่านเทคโนโลยี loT และระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย
ภาระกิจที่ 3 พัฒนาทีม สร้างวัฒนธรรมที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ร่วมกันสร้างผู้นำที่มีทัศนคติและศักยภาพที่เหมาะกับการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านในองค์กร กระตุ้นทีมสู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
มุ่งสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จร่วมกันในระยะยาวอย่างยั่งยืน
“ภารกิจสำคัญทั้ง 3 ด้านนี้จะเป็นรากฐานในการเติบโตอย่างยั่งยืนของ ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งสินค้า บริการ วิธีการทำงานและวัฒนธรรมองค์กร เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง” นายซิกเว่ กล่าว
