“เคทีซี”ชี้ยอดใช้บัตรเพื่อสัตว์เลี้ยงทะลุพันล. จับมือ 4 พันธมิตรดันธุรกิจรวมโต 10%

HoonSmart.com>>เคทีซี เผย 4 เดือนแรกปี’68 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดสัตว์เลี้ยงโต 10% มั่นใจทั้งปีโตต่อเนื่องเกิน 1 พันล้านบาท จับมือ 4 พันธมิตร ผู้จัดงานแฟร์ โรงพยาบาล ประกัน โรงแรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสัตว์เลี้ยงไทย

บริษัทเคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) จัดงานเสวนา “Paw-ssibilities: The Next Chapter of Pet Industry”ร่วมกับพันธมิตรผู้จัดงาน Pet Expo Thailand โรงแรม GO Hotel โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ และบริษัท ทิพยประกันภัย ฉายภาพเทรนด์และทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะการปรับตัวของธุรกิจต่างๆ เพื่อสอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปโดยมองสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต

น.ส.สิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต”เคทีซี” กล่าวว่า เดือนมกราคม – เมษายน 2568 การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดสัตว์เลี้ยงเติบโตที่ 10% โดยเดือนเมษายนมีการเติบโตถึง 12% กลุ่มที่มีรายได้เกิน 5 หมื่นบาท มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 23% ส่วนกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยมียอดการใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงโต 10% ตามปัจจัยฤดูกาลและวันหยุดยาวที่มีความสำคัญในการส่งเสริมการขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง


คาดว่าปีนี้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดดังกล่าวจะเติบโต 10% อยู่ในระดับพันล้านบาทอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงจำนวน 5,009 รายและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกในครอบครัวเช่นการทำประกันเพื่อคุ้มครองสัตว์เลี้ยง การดูแลสุขภาพด้วยเทคโนโลยีและสถานที่ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet Friendly)

สำหรับในปี 2567 ที่ผ่านมา ลูกค้ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดสัตว์เลี้ยงมียอดรวมที่ 1,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2566 โดยกลุ่มสมาชิกอายุ 30 – 34 ปีมีสัดส่วนการใช้จ่ายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากที่สุดถึง 17% รองลงมาคือกลุ่มสมาชิกอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนที่ 16% และสมาชิกทั้ง 2 กลุ่มนี้ยังใช้จ่ายในหมวดดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ

“ได้ออกแคมเปญ “AII my LOVEis Pet”เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกที่เลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกในครอบครัว เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่ร้านค้าในหมวดสัตว์เลี้ยงที่ร่วมรายการ จะได้รับสิทธิพิเศษ ส่วนลดสูงสุด 15% ,แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อมียอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิปต่ำกว่า 2,000 บาท และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย แลกรับเครดิตเงินคืน 12% เมื่อมียอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิปตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายแลกรับเครดิตเงินคืน 15% และให้แบ่งชำระ 0.74% ต่อเดือน นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 3,000 บาท ขึ้นไป มั่นใจว่าแคมเปญดังกล่าว จะมีส่วนช่วยผลักดันให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปี 2568เติบโตได้ตามเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 10%” น.ส.สิรีรัตน์ กล่าว

เอเชีย-ละตินอเมริกาหนุนตลาดโต

น.ส.ยุภา ดำรงคงวิทยานุกูล ผู้จัดการโครงการ Pet Expo Thailand บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า
ปัจจุบันการจัดงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศซึ่งการจัดงานมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเช่นงานที่เน้นสัตว์เลี้ยงบางประเกทหรือบางสายพันธุ์โดยเฉพาะรวมถึงมีการแบ่งโซนพิเศษเพื่อรองรับความสนใจที่หลากหลายของกลุ่มคนรักสัตว์

สำหรับงาน Pet Expo Thailand 2568 ในปีนี้คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมกว่า 2 แสนคน จากที่สามารถรองรับได้เต็มที่ 2.27 แสนคน นอกจากนี้กระแสการเลี้ยงสัตว์พิเศษ หรือ Exotic pets จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%

ขณะที่เทรนด์ระดับโลกความต้องการด้านสินค้าอาหารและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงพิเศษมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและละตินอเมริกาทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีโอกาสขยายตลาดเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้

“ยอดใช้จ่ายในงาน Pet Expo Thailand 2568 ที่เพิ่งจัดไป เฉลี่ยคนละ 3-3.5 หมื่นบาท ส่วนใหญ่ซื้ออาหาร รองมาคืออุปกรณ์ และจะมีการจัดงานอีกครั้งในวันที่ 31 ก.ค.-3 ส.ค.นี้ และยังจะมีการจัดงาน Cat Expo Thailand ด้วย เพื่อตอบโจทย์ตลาดแมวโดยเฉพาะ”น.ส.ยุภา กล่าว

2 เดือนยอดจองห้องพักโต 75%

น.ส.จตุพร วิไลแก้ว Head of Hotel Asset Management and Operations โรงแรม GO Hotel ในเครือเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.2568 ที่ผ่านมายอดจองห้องพักในโซนอีอีซี หรือภาคตะวันออก ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงโต 75% ปีนี้เห็นเทรนด์ของกลุ่มต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยก็มีการเข้าพักพร้อมสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น

ทาง GO Hotel ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะกลุ่มGen Y และ Gen Z ที่นิยมเดินทางแบบ Road Trip หรือ Staycation พร้อมสัตว์เลี้ยง จึงได้มีการแบ่งสัดส่วนห้องพักแบบ Pet Friendly 10-15% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด พร้อมทั้งเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะ เช่น ชามอาหาร ถุงเก็บมูลสัตว์เลี้ยง ผ้าปูรองนอน และมีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงได้เดินเล่นอย่างปลอดภัย

รวมทั้งการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานให้เข้าใจถึงความต้องการเฉพาะของเจ้าของสัตว์เลี้ยงเพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักของลูกค้าได้อย่างครบวงจร

คาดเบี้ยประกันแตะ 100 ล.

นางธนัชชา วงษ์เจริญสิน ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจธนาคาร 2 บริษัททิพยประกันภัย กล่าวว่า บริษัทได้ขยายอายุรับประกันภัยสัตว์เลี้ยงถึงอายุ 9 ปี จากเดิมรับถึงอายุ 7 ปี เพราะเห็นว่าผู้ปกครองให้การดูแลอย่างดีเหมือนเป็นสมาชิกในบ้าน
จากการคาดการณ์ตลาดประกันภัยสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยปี 2568 จะมีมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 15 -20% คาดว่าปีหน้าเบี้ยรับรวมทั้งระบบจะแตะ 200 ล้านบาท จากการที่ทางกทม.จะเริ่มใช้ข้อบังคับให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นน้องหมา และน้องแมว ต้องฝังชิปตั้งแต่ต้นปี 2569 ในส่วนของทิพยฯ มีเบี้ยสัตว์เลี้ยงรวม 30 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 30% โดยมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอยู่ราว 30-40% ต่อปี

ปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยสัตว์เลี้ยงเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ปัจจัยหลักมาจากการตระหนักถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลและรักษาสัตว์เลี้ยงที่สูงขึ้น โดยค่ารักษาพื้นฐาน เช่น
การฉีดวัคซีนหรือการตรวจสุขภาพอยู่ที่ 1,000 บาท – 5,000 บาทต่อครั้ง ส่วนการผ่าตัดหรือรักษาเฉพาะทางอาจสูงถึง 10,000 บาท – 50,000 บาท
ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเริ่มมองหาทางเลือกในการบริหารความเสี่ยงผ่านประกันภัย

“เรามีกรมธรรม์ 3 แบบ เบี้ยตั้งแต่ 1,950-3,400 บาทต่อปี ให้ความคุ้มครองครอบคลุมการฉีดวัคซีน การรักษา ชีวิตสัตว์ การฝากเลี้ยง และบุคคลภายนอก เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับเจ้าของ”นางธนัชชา กล่าว

คลินิกทะลุ 3 พันแห่ง

การเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานพยาบาลสำหรับสัตว์เลี้ยงซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 3,000 แห่งทั่วประเทศมีโอกาสเติบโตตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สพ.ญ. นวพร ชวนปรีชา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อมี 21 แห่ง และมีที่เวียดนามอีก 1 แห่ง โดยมีแผนที่จะขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ รวมถึงขยายรูปแบบจากโรงพยาบาลไปเป็นคลินิกขนาดเล็กที่สามารถให้บริการขั้นพื้นฐานสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการที่มากยิ่งขึ้น ในรูปของการซื้อกิจการ และการสร้างแบรนด์รอง รวมถึงการธุรกิจเข้าในในสินค้าอาหารสัตว์เพิ่มเติม เพื่อสอดคล้องกับความต้องการและแนวโน้มของประชากรไทยที่เลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในกลุ่มคนโสด คู่รักไม่มีบุตร และผู้สูงอายุ มองว่าสัตว์เลี้ยงคือสมาชิกที่สำคัญและต้องการให้สัตว์เลี้ยงได้รับการบริการรวมทั้งการดูแลไม่ต่างจากสมาชิกในครอบครัว

นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาล ยังได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาดูแลรักษาสัตว์เลี้ยง ได้แก่ การวินิจฉัยด้วยภาพขั้นสูง (MRI, CT
Scan) การผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อลดการเจ็บปวดเวชศาสตร์เฉพาะบุคคลตามสายพันธุ์ รวมถึงบริการเสริม เช่นกายภาพบำบัด และบริการปรึกษาผ่านช่องทางดิจิทัล