HoonSmart.com>>บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ช่วงสั้นแกว่งตัวผันผวน ในกรอบ 1,130-1,170 จุด ตลาดจับตาการต่อรองภาษีกับสหรัฐ ไทยเจรจา 23 เม.ย. นี้ แนะกลยุทธ์ลงทุนสัปดาห์นี้“Selective Buy” ใน 2 ธีมหลัก 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยเฉพาะตัว
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ1,140-1,130 จุด และแนวต้านที่ 1,160-1,170 จุด ตลาดจับตาการต่อรองภาษีกับสหรัฐ ซึ่งไทยมีกำหนดเจรจา 23 เม.ย. นี้ ขณะที่ความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน น่าจะผ่อนคลายลง หลัง ปธน.ทรัมป์ ระบุว่าอาจสั่งปรับลดภาษีที่เก็บจากจีนลงเพื่อไม่ให้การค้าหยุดชะงัก แต่คาดว่าวันนี้มูลค่าซื้อขายน่าจะยังไม่หนาแน่น เนื่องจากตลาดต่างประเทศบางแห่งปิดทำการเนื่องในวันอีสเตอร์
ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวผันผวนและการซื้อขายจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐที่มีต่อประเทศคู่ค้า รวมทั้งยังต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้น จะส่งผลกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
ขณะที่ในประเทศมองยังไร้ปัจจัยบวกใหม่และอยู่ระหว่างจับตาการเข้าเจรจาทางการค้าของรัฐบาลไทยกับสหรัฐ ซึ่งคาดว่าข้อสรุปอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ประเด็นสำคัญ
– IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดด้านการค้าที่เพิ่มขึ้น แต่จะไม่ถึงกับเผชิญภาวะถดถอย โดยจะมีการประกาศ GDP ใหม่ในรายงาน World Economic Outlook ฉบับปรับปรุงในวันอังคารที่ 22 เม.ย. จากเดิมที่คาดว่า GDP ปี 2568-69 จะเติบโตปีละ 3.3%
– ผู้ว่า BoJ ส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเคลื่อนตัวสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% พร้อมทั้งประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าอย่างระมัดระวัง
– ปธน.ปูติน ประกาศหยุดยิงในยูเครนเนื่องในวันอีสเตอร์เป็นเวลา 30 ชั่วโมง ด้านยูเครนระบุว่าเป็นเพียงการสร้างภาพลวงตา ส่วนสหรัฐเผยว่าพร้อมถอนตัวจากบทบาทคนกลางไกล่เกลี่ยสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน หากยังไม่มีความคืบหน้า
– บริษัทวิจัย IDC เผยยอดจัดส่ง iPhone ของ Apple ในจีนลดลง 9%YoY เหลือ 9.8 ล้านเครื่อง ใน 1Q68 และเป็นแบรนด์เดียวที่มียอดจัดส่งลดลง ทำให้ส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 13.7% จาก 17.4% ใน 4Q67 ขณะที่ยอดจัดส่ง Xiaomi เพิ่มขึ้น 40%YoY เป็น 13.3 ล้านเครื่อง
– สศค. เผยการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐช่วง 6 เดือนแรก (ต.ค. 67 – มี.ค. 68) มีเพียง 2.3 แสนล้านบาท หรือ 26.3% ของวงเงิน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และจำเป็นต้องเร่งรัดเบิกจ่ายในช่วงครึ่งปีหลังที่ยังมีวงเงินอีก 5 แสนล้านบาท
– ททท. เผยว่างาน Maha Songkran World Water Festival (11-15 เม.ย.) มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.1 ล้านคน และมีเงินหมุนเวียนกว่า 4 พันล้านบาท ส่วนการเดินทางช่วงสงกรานต์ (12-16 เม.ย.) มีนักท่องเที่ยวรวม 5.27 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27% สร้างรายได้ราว 2.87 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%YoY
แนะลงทุน 2 ธีมหลัก 1 ธีมเทรดดิ้ง
สำหรับ ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ มอง SET แกว่งตัวผันผวนและการซื้อขายยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง จากกังวลความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐ และรอติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1.หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย- ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY ฐานะการเงินแกร่ง จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50: ADVANC, BBL, BDMS, CPALL, PTT และ SET100: BCH, BTG
2.หุ้น Undervalued ซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD และมี SET ESG Ratings ระดับ A-AAA- ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีศักยภาพจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 3% แนะนำ BJC, CPF, AP, HMPRO, OR
3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรภายใต้สงครามการค้าที่มีท่าทีรุนแรงขึ้น แนะนำหุ้นที่มีรายได้ภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดีกว่า โดยเฉพาะหากสามารถกำหนดราคาและส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้- อีกทั้งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการปรับลงของราคาน้ำมันและดอกเบี้ย ได้แก่ BCH, CPALL, CPAXT, GULF, MTC, OR และ TRUE
ขณะที่ แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางตรงจากการส่งออกไปสหรัฐ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, ยาง, สินค้าเกษตร, เครื่องประดับ และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ นิคม, ท่องเที่ยว, ธนาคาร
