“คิงส์ฟอร์ด”คาดกรอบดัชนี 1,130-1,150 จุด แนะทยอยซื้อกลุ่มอาหาร-อุปโภค

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนีได้แรงหนุน หลังแรงกดดันปัจจัยสงครามการค้าเริ่มลดลง สหรัฐฯ อยู่ในช่วงเจรจาข้อตกลงการค้ากับประเทศต่าง ๆ กลุ่มแบงก์ทยอยแจ้งงบ Q1/68 แนวต้านดัชนี 1,150 จุด ส่วนแนวรับ 1,130 จุด แนะทยอยซื้อกลุ่มอาหารและอุปโภค BTG,CBG,NEO เป็นหุ้นกลุ่มปลอดภัย พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น BCPG, PR9

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,130 จุด แนวต้าน 1,150 จุด คาดดัชนีได้แรงหนุน หลังแรงกดดันจากปัจจัยสงครามการค้าเริ่มลดลง โดยสหรัฐอยู่ในช่วงการเจรจาข้อตกลงการค้ากับประเทศต่าง ๆ และรออยู่ในช่วงรอรายงานกำไร Q1/68 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหารและอุปโภค BTG,CBG,NEO เป็นหุ้นกลุ่มปลอดภัย

ด้านแบงก์ใหญ่ BBL รายงานกำไร Q1/68 อยู่ที่ 12,618 ล้านบาท +21.3% QoQ, +19.9% YoY และดีกว่า BB คาด +11% เป็นผลจากกำไรสุทธิจากเงินลงทุน และรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ย +27.2% QoQ, +66.4% YoY กอปรค่าใช้จ่ายดำเนินงานปรับลดลง ขณะที่สำรอง ECL ใน Q1/68 เพิ่มขึ้น +18.8% QoQ, +5.7% YoY และ NPL ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.0% & Q4/67 ที่ 2.7%

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อคืนนี้ DJIA -1.33%, S&P500 +0.13%, Nasdaq -0.13% จากแรงขายกลุ่มเฮลธ์แคร์ นำโดย United Health -22.38% จากคาดการณ์ผลประกอบการ Q1/68 ต่ำกว่าคาด ส่วนกลุ่มเทคโนโลยี -0.67% หลัง Nvidia -2.9% ถูกกดดันจากมาตรการจำกัดการส่งออกชิปไปตลาดจีน

วานนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ขอให้ ประธานเฟดปรับลดดอกเบี้ยลง และขู่จะปลดออกจากตำแหน่ง หากไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐยังผันผวนต่อนโยบายที่ไม่แน่นอนของ ประธานาธิบดีทรัมป์

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 9,000 อยู่ที่ 215,000 ต่ำกว่าคาดที่ 225,000 ราย และตัวเลขเริ่มสร้างบ้าน มี.ค. อยู่ที่ 1.324 ล.ยูนิต ต่ำกว่าคาดที่ 1.42 ล.ยูนิต ค่ำวันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดในวันหยุด Good Friday

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.13% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี, ธนาคาร แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.6% หลัง ECB ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ตามคาด

หุ้นเด่นแนะนำ BCPG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.40 บาท) แนวโน้มปี 68 คาดกำไรปกติจะเติบโตด้วยผลของปรากฏการณ์ลานีญาที่เป็นบวกต่อ Hydro power plant ประกอบกับการทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe ถือหุ้น 48%) ในลาวที่จะเริ่มช่วง 2H68 ปัจจัยบวกที่เหลือมาจาก BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในไทยน้อย ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการแทรกแซงโดยภาครัฐ

ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งให้ราคาขายไฟฟ้า (ค่าความพร้อมจ่าย) ในตลาดเสรีของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง มองว่าปี 68 ไม่มีตั้งสำรองเพิ่มกรณีลูกหนี้ในลาว ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 1.5 พันล้านบาท และปี 69 ที่ 1.8 พันล้านบาท +19%YoY

หุ้น PR9 (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 28.51 บาท) Bloomberg Consensus คาดกำไร 1Q68 อยู่ที่ 194 ล้านบาท (+22%YoY, -6%QoQ) อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ยัง +YoY ดี คาดจากแรงหนุนในประเทศ(เช่น ไข้หวัดใหญ่, ฝุ่น PM 2.5) และกลยุทธของ PR9* ที่ทำการตลาดไปหาผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น(อย่างเช่น ชาติตะวันออกกลาง)

ด้าน PR9* เอง ปี68 นี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโต +10 ถึง 20%YoY โดยบริษัทยังคงเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศขึ้นราว 20% จากฐานคนไข้รวม ทั้งนี้ ตลาดคาด กำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ PR9* จะขยายตัวมาอยู่ที่ 816 ล้านบาท (+15%YoY) และ 903 ล้านบาท (+11%YoY) ตามลำดับ

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–