HoonSmart.com >> EA เคลียร์งบ Q4/67 เริ่มปี 2568 สดใส ผลประเมิน เดินหน้าฟื้นธุรกิจตามแผนความยั่งยืน ESG โดย MSCI เพิ่มจาก A สู่ AA ตอกย้ำผู้นำด้านความยั่งยืน

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) แจ้งผลดำเนินงานปี 2567 ขาดทุนสุทธิ 4,630 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปี 2566 กำไรสุทธิ 7,606 ล้านบาท
นายฉัตรพล ศรีประทุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA ) กล่าวว่า สาเหตุการขาดทุน มาจากบริษัท ฯ ได้ปรับปรุงรายการทางบัญชีโดยปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และแบตเตอรี่ โดยจะเป็นการรับรู้ผลทางบัญชีในไตรมาส 4/2567 ครั้งเดียว เพื่อการเริ่มต้นใหม่ในปี 2568
ขณะเดียวกัน กระแสเงินสดของ EA ยังเป็นบวก หากไม่รวมรายการปรับปรุงทางบัญชีครั้งนี้ ปีนี้บริษัท ฯ ทำกำไรได้มากกว่า 2,200 ล้านบาท
“การรับรู้ผลการปรับปรุงรายการทางบัญชีในครั้งนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจของเราในการแก้ไขธุรกิจที่ประสบปัญหาอันได้แก่ ธุรกิจประกอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบตเตอรี่” ซีอีโอ กล่าว
จากผลประกอบการในปี 2567 EA มีกระแสเงินสดมากกว่า 8,000 ล้านบาท และหากไม่รวมการปรับปรุงรายการทางบัญชีครั้งนี้ บริษัทมีกำไรมากกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงิน
นอกจากนี้ EA กำลังดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ธุรกิจที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปี ในการปรับโมเดลธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบตเตอรี่ โดยการสร้างความร่วมมือกับผู้นำระดับโลกในแต่ละสายธุรกิจ
นายฉัตรพล กล่าวว่า บริษัท ฯ ได้ร่วมมือกับหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์ประเภทพิเศษรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน คือ บริษัท เฉิงหลี่ สเปเชียล ออโตโมบิล จำกัด (Chengli Special Automobile Co., Ltd.) ในการพัฒนาสินค้าและผลิตจากโรงงานของ EA
สำหรับบริษัท เฉิงหลี่ เป็นผู้ผลิตและส่งออกรถประเภทพิเศษมากกว่า30,000 คันไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก “และสำหรับธุรกิจแบตเตอรี่ ขณะนี้เรากำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบทางกฎหมายของข้อตกลงกิจการร่วมค้าของเรากับหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของจีน เพื่อใช้โรงงานของเราในประเทศไทยสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เพื่อรองรับการผลิตสำหรับส่งออกไปในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และตอนนี้เรากำลังตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา” นายฉัตรพลกล่าว
นอกจากนี้ผลประเมินความยั่งยืน ESG โดย MSCI ที่เพิ่มขึ้น EA ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากสถาบัน MSCI ESG Research หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือในด้านดัชนีความยั่งยืนระดับนานาชาติ โดยได้รับการปรับระดับจาก A สู่ระดับ AA และบริษัทได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น “ผู้นำในกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกันในด้านความพยายามด้านเทคโนโลยีสะอาด”
นายฉัตรพล กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯ ภูมิใจที่ได้รับการยกระดับจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความพยายามของเราที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของธุรกิจ
