HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดดัชนี SET แกว่งผันผวนแถว 1,190-1,240 จุด จากความไม่แน่นอนอง”ทรัมป์”เกี่ยวกับนโยบายภาษีนำเข้าสินค้า พร้อมเชียร์ MTC, SHR
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวน Sideway บริเวณ 1,190-1,240 จุด จากความไม่แน่นอนท่าทีของ”ทรัมป์”ที่ประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่นๆ 25% จาก EU ซึ่ง พร้อมกับภาษีต่อ Canada, Mexico และจะเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10%
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยมี valuation ที่ไม่แพง โดยปัจจุบัน SET index มี P/E ที่ 15.16x, Forward P/E สำหรับ FY2025 ที่ 12.79x สำหรับ บริเวณ -2.0 S.D.
ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนในการเน้นเทรดดิ้งในไตรมาส 1 ปี 2568 และ เริ่มทยอนสะสมกลุ่ม real sectors อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (SIRI AP), ค้าปลีก (CPALL MOSHI), โรงพยาบาล (BDMS BH), กลุ่ม Non-bank (MTC) และสะสมกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW SHR)
หุ้นแนะนำ MTC แนะนำกลุ่ม Non-bank เชื่อว่า MTC จะมี EPS เติบโตแข็งแกร่งในอัตรา 16.8%-22.4% ในปี 2568-2570 และมีคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น เชื่อว่า P/BV ที่ 2.3 เท่าในปี 2568 ยังไม่สูงเกินไป หากพิจารณา ROE ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 17.4-17.9% ในปี 2568-2570 (Take profit : 49.50 / Stop loss : 46.25)
SHR รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 มีกำไรปกติหลัก 147 ล้านบาท (74 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2566, -20 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567) มากกว่าคาด เชื่อว่าจะมีโมเมนตัม EPS ที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2568 จากความต้องการในประเทศและโรงแรมต่างประเทศ (Take profit : 2.14 / Stop loss : 1.93)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบทั้ง ดัชนี DJIA, Nasdaq และ S&P500 โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้น NVIDIA (-8.5%) หลังจากเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ถึงแม้ว่ากำไรและรายได้จะสูงกว่าคาดในไตรมาส 4 ปี 2567 แต่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลดลง และ Guidance แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ต่ำกว่าตลาดคาด นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับมาตรการของ Donald Trump
สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจ สหรัฐเปิดเผย GDP ไตรมาส 4 ปี 2567 (ครั้งที่ 2) ที่ 2.3% qoq ) ตามตลาดคาด (ไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งที่ 1) ในขณะที่ดัชนี Core PCE ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% ในไตรมาส 4 ปี 2567 (สูงกว่าคาดที่ 2.5%)
สำหรับสัญญาตลาดทองคำปิดลบที่ 2895.9 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ตลาดมองว่าการชะลอตัวในระยะสั้นจากการ take profit และเชื่อว่า Upside ของทองคำเพิ่มเติมจะมาจากปฏิกิริยาต่อมาตรการภาษี Donal Trump เพิ่มเติม
ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ปิดที่ 70.35 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัว หลังจาก Donald Trump ประกาศการยกเลิกใบอนุญาติบริษัทเชฟรอน (Chevron) ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันในเวเนซุเอลา แนะนำติดตามความคืบหน้าการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่าง Russia Ukraine โดยหากสำเร็จจะทำให้มีการยกเลิกการคว่ำบาตร Russia และทำให้ Supply น้ำมันดิบในตลาดมีมากขึ้น