ดาวโจนส์ปิดลบ 193 จุด วิตกภาษีทรัมป์ Nasdaq ร่วง ผิดหวังผลดำเนินงาน Nvidia

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 193 จุด ด้าน Nasdaq -2.78% หลังรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ฉุดหุ้นผลิตชิปรายอื่นร่วงตาม ตลาดยังกังวลมาตรการภาษีทรัมป์ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” เพิ่มขึ้น WTI กลับมายืนเหนือ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 27กุมภาพันธ์ 2568 ปิดที่ 43,239.50 จุด ลดลง 193.62 จุด หรือ -0.45% ส่วนดัชนี S&P 500 และNasdaq ก็ปรับลงเช่นกันท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนจากการร่วงลงของหุ้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่นำโดย Nvidia หลังรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนักลงทุนยังให้ความสนใจกับข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,861.57 จุด ลดลง 94.49 จุด, -1.59%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,544.42 จุด ลดลง 530.84 จุด, -2.78%

หุ้น Nvidia ลดลง 8.5% ทำให้มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดหายไป 274 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นรายไตรมาสอ่อนแอกว่าที่คาดซึ่งกลบกำไรและรายได้ไตรมาส 4 ปีบัญชี 2025 ที่สูงกว่าคาด

ผลประกอบการและแนวโน้มของ Nvidia ทำให้นักลงทุนที่คาดหวังไว้สูงต้องผิดหวัง ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 20% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 6 มกราคม

หุ้นบริษัทผลิตชิปรายอื่น ๆ ก็ลดลงเช่นกัน โดยหุ้น Broadcom ลดลงกว่า 7% และหุ้น AMDลดลง 5% ซึ่งฉุดดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) ให้ลดลง 6.1%

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากหุ้น Salesforce ซึ่งลดลง 4% แม้กำไรในไตรมาสล่าสุดดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และนักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่าผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง อีกทั้งบริษัทยังคงนำเสนอบริการ AI อย่างต่อเนื่อง แต่ก็คาดการณ์รายได้ที่ต่ำกว่าความคาดหวัง

บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่สวนทางตลาดคือ Snowflake บริษัทที่ให้บริการข้อมูลบนคลาวด์ด้วย AI เพิ่มขึ้น 4.5% จากผลกำไรและรายได้ในไตรมาสล่าสุดที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีร่วงลง ส่วนอื่นๆ ของตลาดกลับปรับขึ้น ดัชนีกลุ่มพลังงานใน S&P เพิ่มขึ้น 0.5% ตามการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยกเลิกใบอนุญาตดำเนินธุรกิจในเวเนซุเอลาของบริษัทเชฟรอน ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่

หุ้น Salesforce บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ลดลง 4% หลังจากเปิดเผยคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2026 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ หลังเขาโพสต์บน Truth Social ได้ประกาศว่าการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตรา 25% จากเม็กซิโกและแคนาดาจะมีผลในวันที่ 4 มีนาคม หลังจากการเลื่อนบังคับใช้มาหนึ่งเดือนสิ้นสุดลง โดยอ้างว่าทั้งสองประเทศยังควบคุมการไหลเวียนของยาเสพติดข้ามชายแดนได้ไม่มากพอ และยังระบุด้วยว่า จีนซึ่งถูกเก็บภาษีนำเข้าอยู่แล้ว 10% จะถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นอีก 10% ในวัน 4 มีนาคม เช่นกัน นอกจากนี้ทรัมป์ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่น ๆ จากสหภาพยุโรป (EU) ในอัตรา 25%

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังได้รับผลกระทบจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในสัปดาห์ก่อน ขณะที่รายงานอีกชุดตอกย้ำว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวในไตรมาสที่สี่ ยิ่งทำให้กังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงมากขึ้น

กระทรวงแรงงาน รายงานจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 22,000 ราย มาที่ 242,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และสูงกว่า 225,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงานดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมกราคมลดลง 4.6% เมื่อเทียบรายเดือน มาที่ 70.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1% ส่วนเมื่อเทียบรายปีลดลง 5.2%

กระทรวงพาณิชย์รายงานประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปี 2024 ว่า 2.3% ไม่เปลี่ยนแปลงจากประมาณการครั้งที่ 1
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ให้ความสำคัญในวันศุกร์นี้

จากข้อมูลของ LSEG เทรดเดอร์มองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.50% ภายในเดือนธันวาคม

เบ็ธ แฮมแม็ก ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เธอไม่คิดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงมากขึ้น

ตลาดยุโรปปิดลบ จากการร่วงลงของกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์หลังหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่อีกครั้งว่าจะเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปในอัตรา 25%

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 557.11 จุด ลดลง 2.56 จุด, -0.46%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,756.21 จุด เพิ่มขึ้น 24.75 จุด, +0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,102.52 จุด ลดลง 41.40 จุด,-0.51%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,550.89 จุด ลดลง 243.22 จุด, -1.07%

ดัชนีหุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ของยุโรปร่วงลงกว่า 3.7% โดยหุ้นStellantis ลดลง 5.2%, หุ้น BMW ลด 3.8% และหุ้น Porsche ลดลง 3.3%
หุ้น Ferrari ลดลงมากที่สุดถึง 7.9% หลังจากบริษัท Exor ขายหุ้น Ferrari ออกประมาณ 4%

กลุ่มรถยนต์ที่เชื่อมโยงกับตลาดโลกสูงปั่นป่วนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาจากคาดการณ์ว่าความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐฯ กับส่วนอื่นๆ ของโลกจะทวีความรุนแรงขึ้น อีกทั้งข้อมูลเมื่อต้นสัปดาห์นี้ที่แสดงให้เห็นว่ายอดขายรถยนต์โดยสารลดลง 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ยิ่งกระทบความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรม

โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปบอกกับ CNBC ว่า “ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดและทันทีต่อการกีดกันที่ไม่ยุติธรรมต่อการค้าเสรีและเป็นธรรม รวมถึงเมื่อมีการใช้ภาษีศุลกากรเพื่อท้าทายนโยบายทางกฎหมายและไม่เลือกปฏิบัติ”

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 2.2% โดยหุ้น SAP และหุ้น ASM ลดลง หลังผลประกอบการของ Nvidia ในสหรัฐฯ น่าผิดหวังสำหรับนักลงทุน

ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป( ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
ลงอีกครั้งลงมาที่ 2.5% ในสัปดาห์หน้า

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.52% ปิดที่ 70.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 74.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล