HoonSmart.com>>ตลาดเล็งคุมน้ำหนักหุ้นแต่ละตัวไม่เกิน 10% ในการคำนวณดัชนี กระทบหุ้นเดลต้าฯ(DELTA) โดยตรง เพราะมีน้ำหนัก 13% ราคาร่วง 6.91% ปิดที่ 114.50 บาท กดมาร์เก็ตแคปหายไป 106,027 ล้านบาท หากบังคับใช้คาดเงินไหลออก 1,480 ล้านบาท ไหลเข้า PTT,ADVANC, AOT, GULF, PTTEP ด้านดัชนีหุ้นวันนี้ ทรุดลง -1.10% หลุด 1,300 สวนทางตลาดเอเชียส่วนใหญ่บวก นักวิเคราะห์มองเห็นโอกาสช้อป หุ้นพื้นฐานดี ปันผลงาม
วันที่ 5 ก.พ. 2568 หุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ฉุดตลาดหุ้นไทยหลุด 1,300 จุด หลังจากราคาดิ่งลงแรง ปิดที่ 114.50 บาท ร่วงลง -8.50 บาทหรือ-6.91% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 4,332.65 ล้านบาท
สาเหตุที่ DELTA ตกเป็นเป้าถูกถล่มหนัก บล.เอเซียพลัสระบุว่าเนื่องจากตลาดอยู่ในช่วงพิจารณาปรับน้ำหนักให้หุ้นแต่ละตัวมีน้ำหนักต่อดัชนีไม่เกิน 10% (Capped Weight) โดยมีการ Rebalance ทุกๆ ไตรมาส ใน SET100 SET50 SET100FF SET50FF ซึ่งตรงตามกฏก.ล.ต.ที่ห้ามกองทุนรวมซื้อหุ้นเกิน 10% ของพอร์ต (เปิดรับฟังความคิดเห็น 4-17 ก.พ.2568)
ปัจจุบัน SET50 มีมาร์เก็ตแคป 11.7 ล้านล้านบาท SET100 13.1 ล้านล้านบาท โดยหุ้นที่มีน้ำหนักเกิน 10% ใน SET100 SET50 มีแค่ DELTA ตัวเดียวที่มีมาร์เก็ตแคป 1.56 ล้านล้านบาท มี Capped Weight เกินใน SET50 3% ใน SET100 2% ส่วนใน SET50FF และ SET100FF ไม่มีหุ้นตัวไหนน้ำหนักเกิน 10%
ดังนั้นหากตลาดฯ มีการนำวิธีนี้มาใช้ DELTA จะมีน้ำหนักต่อตลาดน้อยลง แล้วหุ้นตัวอื่นๆ จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ DELTA ทุกๆ 1 บาทที่เปลี่ยนแปลงมีผลต่อดัชนี SET 1 จุด และ SET50 1 จุด
บล.ฟินันเซีย ไซรัสวิเคราะห์ว่า SET50 หุ้น DELTA มีน้ำหนักราว 13% หากมีการบังคับใช้ DELTA จะถูกลดน้ำหนักลงราว 3% และกระจายไปยังหุ้นตัวอื่นๆ
“เบื้องต้นหากอ้างอิงราคาหุ้นตัวอื่นๆในดัชนีคงที่ ราคาหุ้น DELTA อาจต้องปรับลงถึงราว 26% เพื่อให้น้ำหนักของหุ้นปรับลดเหลือ 10% แต่ในความเป็นจริงอาจปรับตัวลงเบากว่า เนื่องจากคาดว่าราคาหุ้นตัวอื่นจะปรับตัวขึ้นด้วยจากเม็ดเงินที่เวียนมาไหลเข้า”
SET ปัจจุบันที่ระดับราว 1,300 จุด เทรดบน 2025PER ราว 13.6 เท่า ซึ่งหากอ้างอิง DELTA ที่ยังเทรด PER ระดับราว 60 เท่า หากตัด DELTA ออก PER ของดัชนีคาดว่าจะอยู่ที่ราว 12.5+- เท่า ซึ่งค่อนข้างถูกเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต และให้ Earnings Yield Gap สูงถึง 5.7% (5% หากรวม DELTA)
ทางด้านบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หากพิจารณา SET50 คาดว่าจะกระทบต่อหุ้น DELTA เพราะมีสัดส่วนต่อดัชนี 13% หากบังคับใช้วิธีคุมน้ำหนักที่ 10% คาดเม็ดเงินไหลออกที่ 1,480 ล้านบาท
ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ก็จะเป็นหุ้นทุกบริษัทในดัชนี SET50 ถูกกระจายน้ำหนักเพิ่มขึ้น โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือหุ้นที่มี มาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ที่สัดส่วนต่อ SET50 ต่ำกว่า 10% โดย 5 อันดับแรก คือ PTT,ADVANC, AOT, GULF, PTTEP คาดเม็ดเงินไหลเข้าช่วง 64-114 ล้านบาท
ทางด้านตลาดหุ้นไทยร่วงสวนทางตลาดเอเชียส่วนใหญ่ปิดบวก ส่วนดัชนี SET ปิดที่ 1,286.74 จุด ลดลง 14.28 จุด หรือ -1.10% มูลค่าซื้อขาย 42,226.09 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 553.52 ล้านบาท นักลงทุนไทยซื้อ 346.40 ล้านบาท สำหรับบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 603.76 บาท และสถาบันขายสุทธิ 296.16 ล้านบาท
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้อ่อนแอกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งตลาดในแถบเอเชียเหนือต่างปิดบวกกันก่อนที่ดัชนี Nasdaq ฟิวเจอร์ส จะเพิ่มช่วงลบในภาคบ่าย ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบเล็กน้อย โดยตลาดรับแรงกดดันจากหุ้น 2 ตัวเป็นหุ้น DELTA ที่ร่วง 8% และ CPALL ร่วง 3% สองตัวนี้กระทบดัชนีฯราว 11 จุด ซึ่งดัชนีฯร่วง 16 จุดในช่วงระหว่างเทรด
ทั้งนี้ DELTA รับแรงกดดันจากตลาดหลักทรัพย์จะปรับดัชนี SET50/100 จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวให้ไม่เกิน 10% ในครึ่งหลังปี 68 แต่น้ำหนัก DELTA ใน SET50 มี 13% และใน SET100 มี 11-12% ทำให้กองทุนอาจต้องปรับลดน้ำหนักออกไป และบ่ายนี้ Nasdaq ฟิวเจอร์ส เพิ่มช่วงลบด้วย ทำให้เป้นปัจจัยกดดัน DELTA ไปด้วย ส่วน CPALL ก็ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับ 7&I ต้องการให้กลุ่มซีพีไปลงทุน 7-11 ในญี่ปุ่น
แนวโน้มลวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) ขึ้นอยู่กับความคืบหน้านโยบายภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ช่วงนี้ต้องติตามพัฒนาการสงครามการค้าเป็นรายวัน และทิศทางของกลุ่มเทคโนโ่ลยีในสหรัฐฯ โดย DELTA มีอิทธิพลต่อตลาดมากสุด พร้อมให้แนวรับ 1,270-1,280 จุด แนวต้าน 1,300 จุด
พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพรุ่งนี้ ตลาดคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 4.75% มาเหลือ 4.5% และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ (7 ก.พ.)
ด้านบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองหุ้นไทยมีโอกาสแจกกำไรที่น่าสนใจจากความเสี่ยง เป็นโอกาสซื้อหุ้นใน SET 100 คุณภาพดี มูลค่าไม่แพง จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ AP, BCP, PTT, SPALI และTU
———————————————————————————————————————————————————–


