HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 134 จุด แรงหนุนหุ้นพลังงาน นักลงทุนมองในทางบวกหวังสหรัฐฯและจีนจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้เช่นเดียวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลื่อนเก็บภาษีแคนาดาและเม็กซิโก ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 4กุมภาพันธ์ 2568 ปิดที่ 44,556.04 จุด เพิ่มขึ้น 134.13 จุด หรือ +0.30% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ก็ปรับขึ้นเช่นกันจากแรงหนุนของหุ้นพลังงาน ขณะที่นักลงทุนมองในทางบวกว่าสหรัฐฯและจีนจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลื่อนการเก็บภาษีศุลกากรสำหรับแคนาดาและเม็กซิโก
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,037.88 จุด เพิ่มขึ้น 43.31 จุด, +0.72%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,654.02 จุด เพิ่มขึ้น 262.06 จุด, +1.35%
อัตราภาษีนำเข้า 10% ใหม่ของสหรัฐฯ สำหรับการนำเข้าของจีนมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร ซึ่งจีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ ไม่ชัดเจนว่าผู้นำประเทศจะพูดคุยกันเมื่อใด และทรัมป์บอกว่าเขาไม่รีบร้อน
รัฐบาลจีนกำหนดอัตราภาษีสูงสุด 15% สำหรับถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลวนำเข้าจากสหรัฐฯ และเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 10% สำหรับน้ำมันดิบ อุปกรณ์การเกษตร และรถยนต์บางประเภท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ตกลงที่จะระงับการเก็บภาษีที่เข้มงวดมากขึ้นในแคนาดาและเม็กซิโก นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ได้ประกาศในโพสต์บนเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย X เมื่อเย็นวันจันทร์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตกลงที่จะระงับการใช้มาตรการภาษีกับแคนาดาเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน หลังจากในวันจันทร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย ไชน์บาว์มประกาศว่าภาษีนำเข้าเม็กซิโกไปยังสหรัฐฯ จะถูกระงับเป็นเวลาหนึ่งเดือนเช่นกัน
ผลประกอบการของบริษัทที่แข็งแกร่งยังช่วยเสริมมุมมองทางบวกของนักลงทุนอีกด้วย โยจาก 211 บริษัทใน S&P 500 ที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 มี 76.8% ที่รายงานดีกว่าารคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้น Palantir บริษัทซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ พุ่งน 24% หลังจากเปิดเผยคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 1 ปี 2025 และในปีบัญชีสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นกลุ่มพลังงานนำการปรับขึ้นของดัชนี S&P โดยเพิ่มขึ้น 2.18%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงาน ได้แก่ ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS)จากสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงาน โดยการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 556,000 ตำแหน่ง มาที่ 7.6 ล้านตำแหน่งในเดือนธันวาคม และต่ำกว่า 8.0 ล้านตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด
ตลาดยุโรปปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนหันไปสนใจการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสจากหลายบริษัท เช่น UBS, BNP Paribas และ Ferrariขณะยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ
หุ้นกลุ่มรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยผู้ผลิตรถสปอร์ต Ferrari เพิ่มขึ้น 8% หลังจากรายงานว่ารายได้และกำไรหลักจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% ในปีนี้
กลุ่มบริการทางการเงินลดลง 1% โดยกลุ่ม UBS ลดลง 7% หลังจากที่ซีอีโอ Sergio Ermotti กล่าวว่าข้อกำหนดด้านเงินทุนที่สูงขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์จะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น แต่ธนาคารรายงานผลกำไรไตรมาสสี่ที่ดีขึ้น
หุ้น Infineon ผู้ผลิตชิปเยอรมัน เพิ่มขึ้น 10.4% ซึ่งเป็นหุ้นในดัชนีที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด หลังจากรายได้ในไตรมาสแรกสูงกว่าประมาณการ และปรับเพิ่มแนวโน้มรายได้ทั้งปีเล็กน้อย
ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจีนตอบโต้ที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ด้วยการประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้
ขณะที่สหรัฐฯ เลื่อนการเก็บภาษีนำเข้า 25% จากเม็กซิโกและแคนาดาไปอีก 30 วัน
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 536.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.19 จุด, +0.22%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,570.77 จุด ลดลง 12.79 จุด, -0.15%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,906.40 จุด เพิ่มขึ้น 51.48 จุด, +0.66
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,505.70 จุด เพิ่มขึ้น 77.46 จุด, +0.36%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 76.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

