HoonSmart.com>> กองทุนผสม “K-BL30-ThaiESG” น้องใหม่กลุ่มกองทุน ThaiESG ของบลจ.กสิกรไทย เน้นลงทุนใน “ตราสารหนี้ไทย” และกระจายลงทุน “หุ้นไทย 30%” ตอบโจทย์นักลงทุนที่ยังกังวลตลาดหุ้นผันผวน หลัง “ทรัมป์” คัมแบ็ก “ไม่กล้า” ลุยหุ้นเต็มสูบ ขณะเดียวกันไม่อยากเทเงินลงทุนทั้งหมดใน “ตราสารหนี้” กลัวเสียโอกาสหุ้นขึ้น ชู “K-BL30-ThaiESG” ทางเลือกลงทุนแบบผสม ช่วยสร้างความสมดุลของพอร์ตและเติบโตในทุกสภาวะตลาด พร้อมสู้กับความผันผวน
“ตลาดหุ้นไทย” กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี 67 ยังฝากความหวังจากเม็ดเงินลงทุน “กองทุนวายุภักษ์” และ “กองทุนประหยัดภาษี” หนุนดัชนีปลายปี 67 มีโอกาสขึ้นไปแตะ 1,500 จุด ระดับเป้าหมายของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย (KAsset) ทว่าการกลับมาของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สร้างความกังวลให้นักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกกับ “สงครามการค้ารอบใหม่” รวมถึง “หุ้นไทย” กลับมาผันผวนอีกครั้ง
นักลงทุนบางส่วน “ไม่กล้า” ลงทุนหุ้นไทย แม้ทิศทางตลาดยังเป็น “บวก” จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัว และล่าสุดตัวเลขส่งออกไทยเดือนต.ค.ขยายตัว 14.6% ดีกว่าที่ตลาดคาด เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 19 เดือน ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวก็ขยับขึ้นต่อเนื่อง
กองทุนผสม “K-BL30-ThaiESG” หรือ กองทุนเปิดเค บาลานซ์ 30 ESG ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน มีระดับความเสี่ยง 5 (ความเสี่ยงปานกลาง) หนึ่งในทางเลือกลงทุนที่ไม่ใช่แค่ช่วย “ประหยัดภาษี” แต่ยังเน้นลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และการกำกับดูแลที่ดี (Governance)” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงได้
นโยบายการลงทุน จะเน้นลงทุน “ตราสารหนี้ไทย” เป็นหลักในหลากหลายประเภท ทั้งตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ตราสารเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) และตราสารส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability – Linked Bond) รวมถึงลงทุนหุ้นกู้เอกชนที่อยู่ในระดับเข้าลงทุนได้ (Investment Grade) เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม หลังจากที่วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นได้สิ้นสุดลง และจะลงทุน “หุ้นไทย” เฉลี่ยไม่เกิน 30% ของพอร์ต
กลยุทธ์การลงทุน
๐ “ตราสารหนี้ไทย” จะผ่านกระบวนการคัดกรองเชิงบวก (Positive Screening) ประกอบกับการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร (Credit Analysis) ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เพื่อลดโอกาสการผิดนัดชำระหนี้
๐ “หุ้นไทย” เกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นโดยนำปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาพิจารณาในกระบวนการตัดสินใจลงทุน (ESG Integration) โดยหุ้นทั้งหมดที่จะลงทุนต้องมีคะแนน SET ESG Ratings อยู่ในระดับ AAA มากกว่า 50%
“จุดเด่นของกองทุน K-BL30-ThaiESG ช่วยตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสมดุลของพอร์ตและการเติบโตในทุกสภาวะตลาด สู้กับความผันผวนได้ ด้วยการกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ ช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตของเงินลงทุนและเสริมความมั่นคงให้กับพอร์ตลงทุน”
ยิ่งน่าสนใจเพิ่มขึ้นไปอีกกับการลงทุนกองทุน ThaiESG ด้วยเงื่อนไขใหม่ “ระยะเวลาการถือครอง” ลดลงเหลือเพียง 5 ปี (จากเดิม 8 ปี) และวงเงินลดหย่อนเพิ่มเป็น 300,000 บาท นอกเหนือจากวงเงิน SSF และ RMF
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน “บลจ.กสิกรไทย” อยู่ระหว่างเสนอขาย IPO กองทุนผสม “K-BL30-ThaiESG” ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.-2 ธ.ค.67 นี้ เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ซื้อผ่านธนาคารกสิกรไทย, บลจ.กสิกรไทยและตัวแทนจำหน่าย หรือช่องทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น K-My Funds ,K-Cyber ,KPLUS พร้อมรับโปรโมชั่น Fund Back จากการลงทุนแบบ DCA สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือ ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองได้ที่เว็บไซต์ บลจ.กสิกรไทย http://www.kasikornasset.com
เงื่อนไขดีๆ แบบนี้คงไม่ต้องรอให้ถึงวันสุดท้ายของปีแล้วค่อยตัดสินใจลงทุน เพราะถึงวันนั้นตลาดหุ้นอาจปรับตัวขึ้นไปจากนี้ !!
หากยังลังเล เลือกไม่ถูกกองทุนแบบไหนดีระหว่างกองทุน ThaiESG นโยบายลงทุน “หุ้น” (กองทุนเปิดเค Target Net Zero หุ้นไทย ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน : K-TNZ-ThaiESG) ความเสี่ยงระดับ 6 (ความเสี่ยงสูง) หรือลงทุน “ตราสารหนี้ไทย” (กองทุนเปิดเค ตราสารภาครัฐ ESG ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน : K-ESGSI-ThaiESG) ความเสี่ยงระดับ 3 (ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ)
กองทุนผสม “K-BL30-ThaiESG” เป็นอีกทางเลือกลงทุน แล้วค่อยสลับสับเปลี่ยนกองทุนไปยังนโยบายอื่นได้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส “ให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม”