“ฟินันเซีย ไซรัส”คาดดัชนีซึมหลังหลุดแนวรับ 1,440 จุด ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้

HoonSmart.com>>บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินแนวโน้มดัชนียังแกว่ง Sideways to Sideways Down หลังเริ่มปิดต่ำกว่าระดับ 1,440 จุด โมเมนตัมเริ่มไม่ค่อยดี อาจซึมลงหาแนวรับ 1,400 จุด หวังแรงซื้อกองทุนวายุภักษ์หนุน ตลาดยังขาดปัจจัยบวก ฟันด์โฟลว์ไหลออกทั้งภูมิภาค จับตา FED จะลดดอกเบี้ยช้าลงมากน้อยแค่ไหน ผสมความกังวลนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของทรัมป์ คืนนี้ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้ ด้านราคาน้ำมันร่วงต่อ

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส คาดแนวโน้ม SET Index จะยังแกว่ง Sideways to Sideways Down หลังเริ่มปิดต่ำกว่าระดับ 1,440 จุด ทำให้โมเมนตัมเริ่มดูไม่ค่อยดี ขณะที่รายงานการประชุม FED ระบุว่าคณะกรรมการมีความเห็นต่างว่าควรปรับลดดอกเบี้ยลงอีกมากเท่าใด ทำให้ยังมีความไม่แน่นอน โดยล่าสุดตลาดคาดความน่าจะเป็นราว 60% ที่ FED จะยังลดดอกเบี้ยต่อในเดือน ธ.ค.อีก 25 bps และรอบนี้ต้องติดตาม Dot Plot ในการประชุมครั้งนี้ โดยคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน ต.ค. ซึ่งตลาดคาด Core +0.3% m-m, +2.8% y-y

ด้านราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ NYMEX ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 68.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 60 วัน และสหรัฐฯ เตรียมผลักดันการหยุดยิงในกาซาต่อไป

ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามการประชุมครม.สัญจนวันศุกร์ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหรือไม่

“ระยะสั้นเรามองตลาดอยู่ระหว่างการทยอยปรับพอร์ตรับผลประกอบการไตรมาส 3/67 และ Outlook ไตรมาส 4/67-ปี 68 หลังการประชุมนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ตามเราคาดโมเมนตัมกำไรและเศรษฐกิจไทยจะเร่งตัวอีกครั้งในไตรมาส 4/67 จาก High Season ของการใช้จ่ายและการท่องเที่ยว รวมถึงปี 2568 ที่มองภาคการลงทุนทั้งรัฐและเอกชนจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักหนุนการเติบโต นอกจากนี้ยังมี Upside หากกนง.ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ส่วน Downside คาดว่ายังถูกจากัดจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1”

กลยุทธ์ : เน้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกาไรไตรมาส 4/67-ปี 68 แข็งแกร่ง ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนระยะกลาง-ยาว

ขณะที่วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคสุทธิหนาแน่น 1,198 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำโดยไต้หวัน 964 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองลงมาคือเกาหลีใต้ 196 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินยังไหลออกเกือบทุกประเทศ สูงสุดที่อินโดนีเซีย 37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีเพียงเวียดนามที่ยังไหลเข้าบางๆ แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก โดยตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ ตลาดยังจับตา FED ว่าจะลดดอกเบี้ยช้าลงมากน้อยเพียงใด รวมถึงความกังวลนโยบายขึ้นภาษีสินค้านาเข้าของทรัมป์

 
 
———————————————————————————————————————————————————–