ธนาคารกสิกรไทย ทุ่มงบกว่า 1,600 ล้าน ร่วมลงทุน Grab จับมือพัฒนาแอพพลิเคชั่น GrabPay by KBank จ่ายค่าโดยสาร-บริการผ่านสมาร์ทโฟน เตรียมเปิดตัวในปี 2562 และให้บริการทางการเงิน นำร่องปล่อยกู้ให้ผู้ขับรถ Grab พิจารณาจากฐานข้อมูลรายได้จากการขับรถ
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยร่วมลงทุนกับ Grab ในการระดมทุน Series H มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 1,600 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนผ่านบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) ซึ่งเป็นการร่วมทุนครั้งแรกกับบริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจหลักอยู่นอกประเทศไทย และเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งเดียวที่ร่วมลงทุน
“เราไม่ได้ลงทุนเพื่อหวังกำไรจากการลงทุน แต่ลงทุนเพื่อให้เห็นว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่ง Grab เป็นผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์-ทู-ออฟไลน์ (O2O) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และ Grab ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในการร่วมกันพัฒนานวัตกรรมให้กับอุตสาหกรรมและภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว” นายพัชร กล่าว
ในปัจจุบัน Grab มีบริการใน 8 ประเทศทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมประเทศไทย
สำหรับความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทย และ Grab จะครอบคลุมการพัฒนาแอพพลิเคชันการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน และบริการทางการเงินต่างๆ ร่วมกัน ได้แก่
1. แอพพลิเคชัน GrabPay by KBank เป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนสมาร์ทโฟน (Mobile Wallet) ที่จะทำให้ลูกค้า Grab ชำระเงินค่าเดินทางและค่าบริการรับส่งของ นอกจากนี้ ยังสามารถโอนเงินให้กับเพื่อนหรือครอบครัวใช้สำหรับซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ รวมทั้งใช้จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดในร้านอาหารหรือร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในต้นปี 2562
2. พัฒนาแอพพลิเคชัน K+ และ Grab ให้ใช้งานร่วมกันได้ เพื่อทำให้ลูกค้าใช้บริการตลอดวงจรการให้บริการของทั้งธนาคารกสิกรไทยและ Grab ได้อย่างราบรื่น
3. นำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่อยู่ในวงจรการให้บริการของธนาคารกสิกรไทยและ Grab เช่น การเสนอสินเชื่อกสิกรไทยให้ผู้ขับรถ Grab สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น การนำเสนอบริการ Grab for Business ให้กับลูกค้า SME ของธนาคารกสิกรไทย เพื่อช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการเดินทางของบริษัท
“ที่ผ่านมามีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่เราอยากให้บริการ แต่เข้าไปไม่ถึง เพราะไม่มีฐานข้อมูล แต่หลังจากนี้จะสามารถปล่อยกู้โดยดูจากข้อมูลของ Grab เช่น รายได้ต่อเดือน โดยเริ่มจากการให้สินเชื่อที่เป็นสภาพคล่อง สินเชื่อเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มูลค่าไม่มาก เพราะต้องค่อยๆ เริ่มทำ เรียนรู้กันไป รวมทั้งการพัฒนาระบบ Credit Scoring และระบบหลังบ้าน จึงยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อ” นายพัชร กล่าว
นอกจากนี้ นายพัชร กล่าวอีกว่า ทิศทางธุรกิจในระดับภูมิภาคของธนาคารกสิกรไทย คือ มุ่งขยายธุรกิจไปยังตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน +3 โดยใช้กลยุทธ์ในการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในแต่ละธุรกิจ ด้วยคอนเซปต์ Better Together ด้วยการผสานจุดแข็งของแต่ละฝ่าย เพื่อร่วมกันนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับการใช้ชีวิตของลูกค้าในทุกๆ วัน
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “Grab กับธนาคารกสิกรไทย มีเป้าหมายเดียวกันคือ การนำนวัตกรรมมาช่วยยกระดับประเทศไทยไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนสมาร์ทโฟนที่เกิดจากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้คนไทยเข้าถึงระบบการชำระเงินระบบดิจิทัลที่สะดวกและปลอดภัยได้มากขึ้น สิ่งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะทำให้แกร็บ เป็นซูเปอร์แอพสำหรับทุกวัน (Everyday Super App) ที่ตอบสนองความต้องการในแต่ละวันของลูกค้าให้ดีที่สุด”
นายรูเบน ไหล ผู้อำนวยการจัดการอาวุโส Grab Financial กล่าวว่า การร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้ Grab Financial เป็นแพลตฟอร์มแรกบนสมาร์ทโฟนที่ให้บริการระบบชำระเงินใน 6 ประเทศอาเซียน