กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO เดินหน้าทยอยส่งมอบรถอีกจำนวน 389 คันที่เหลือ ภายในเดือนธ.ค.และจบเดือนก.พ.62 หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้อง กรณีโครงการรถเมล์ NGV 489 คันของขสมก.ถูกฟ้องขอคุ้มครองชั่วคราว
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี (CHO) เปิดเผยว่า หลังจากนี้ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ประกอบด้วยบริษัทฯ และบริษัท สแกน อินเตอร์ (SCN) พร้อมเดินหน้าทยอยส่งมอบรถอีกจำนวน 389 คันที่เหลือ โดยขสมก. นัดหมายรับรถเมล์ NGV ล็อตถัดไปจำนวน 202 คัน ภายในเดือนธ.ค.นี้
ส่วนล็อตสุดท้ายจำนวน 187 คัน รับมอบประมาณเดือนก.พ.2562 รวมทั้งหมดเป็น 489 คัน มูลค่า 1,891 ล้านบาท เพื่อให้ผู้โดยสารรถเมล์ได้มีรถใหม่ใช้ ซึ่งเป็นรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ และมีทางลาดสำหรับเข็นรถวีลแชร์ เพื่อรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท ทั้งคนพิการและผู้สูงอายุ ให้สามารถใช้บริการรถโดยสารได้อย่างสะดวกปลอดภัยที่สุด
“กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ดำเนินงานอย่างสุจริต ตั้งมั่นในคุณภาพการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งนี้การันตีโดย CHO ได้รับรางวัล CG 5 ดาว ติดกัน 2 ปี และรางวัลด้านความยั่งยืน ต่อเนื่อง 4 ปี มาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มเข้าประมูลงานโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร 489 คัน ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะเป็นการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากอย่างขึ้น”นายสุรเดช กล่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา สำนักงานศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องกรณีโครงการรถเมล์ NGV 489 คันของขสมก. ถูกฟ้องขอคุ้มครองชั่วคราวและมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
จากกรณีเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2561 ศาลปกครองกลาง ได้รับคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว คดีหมายเลขดำที่ 709/2561 ระหว่างบริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด ผู้ฟ้องคดี กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ผู้ถูกฟ้องคดี โดยบริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด ผู้ฟ้องคดี ได้ขอให้ศาลปกครองกลางพิพากษาหรือมีคำสั่งว่า การคัดเลือกกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (CHO) กับ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (SCN) เข้าทำสัญญากับ ขสมก. เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลปกครองกลาง ตรวจสอบมติที่ประชุมบอร์ด ขสมก. เป็นการลงมติที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
และในระหว่างที่ศาลปกครองกลาง ดำเนินการตรวจสอบการลงคะแนนเสียงของบอร์ด ขสมก. ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลมีคำสั่งให้ ขสมก. ระงับการดำเนินการใดตามสัญญา หรือทุเลาการบังคับตามมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือระงับการดำเนินการตามสัญญาซื้อ-ขายรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะดำเนินการตรวจสอบการลงมติของผู้ถูกฟ้องคดีแล้วเสร็จและมีคำพิพากษาในคดีนี้ ทำให้ เมื่อ 10 เม.ย.2561 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาในคดีนี้