HoonSmart.com>>บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จัดเวทีสัมมนาการลงทุนสุดยิ่งใหญ่แห่งปี เลือกสรรบจ.ชั้นดีจากไทย 33 แห่ง เวียดนาม 5 แห่งให้นักลงทุนสถาบันทั้งไทยและต่างประเทศ 120 แห่งเจาะลึกแบบตัวต่อตัว ดึงผู้เชี่ยวชาญร่วมติดอาวุธให้ด้วย ด้านธุรกิจมุ่งผู้นำตลาดเอเชีย เพิ่มรายได้หลากหลาย ลดค่าคอมมิชชั่น สร้างกำไรที่มั่นคง ตั้งเป้า 3-4 ปีเข้าตลาด ลดเสี่ยงปล่อยมาร์จิ้นเหลือ 1 หมื่นล้านบาท ไม่ให้เจ้าของบจ. มองเป้าปีหน้า 1,600 ชูหุ้นเด่น SAWAD-AMATA-GPSC-ฺBDMS-GPSC
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จัดงานสัมมนา “YUANTA THAILAND’S INVESTMENT INSIGHTS 2025” ภายใต้หัวข้อ “SPOTTING K-SHAPED RECOVERY” เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศรวมประมาณ 120 ราย และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 33 แห่ง และตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนามอีก 5 บริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อให้นักลงทุนสถาบันได้รับข้อมูลเชิงลึกของแต่ละบริษัท ตลอดจนสามารถพัฒนาและเพิ่มพูนความรู้ด้านการเงินการลงทุนรวมถึงฉายภาพทิศทางเศรษฐกิจไทย ยุทธศาสตร์การลงทุน ตลอดจนวิเคราะห์ตลาดของไทยและเวียดนาม เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญให้แก่ลูกค้าของหยวนต้า โดยเฉพาะกลุ่มสถาบัน โดยจัด Corporate Meeting ระหว่างวันที่ 21 – 22 พ.ย. 2567 ณโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ
Mr. Bobby Hwang, Chief Strategy Officer Chief International Operations Officer Yuanta Financial Holding Co.,Ltd กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกที่บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จัดงานสัมมนาระดับนานาชาติขึ้นที่ประเทศไทย เพื่อแบ่งปันรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนของไทยและเวียดนาม ที่มีอนาคตไกลและมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยมีลูกค้าสถาบันและคู่ค้าจากทั่วโลกมากกว่า 120 ราย ทั้งจากไต้หวัน ฮ่องกง เวียดนาม รวมถึงไทย เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง นับเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้รู้จักกันและสำรวจความเป็นไปได้ของความร่วมมือด้านฟิวเจอร์ส
Mr.Matthew Smith Vietnam Head of Research มองว่า เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาวจาก 1) โครงสร้างประชากรวัยทำงานที่ยังเติบโตจนถึงปี 2035 2) การขยายตัวของชนชั้นกลางที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3) การเติบโตของตัวเลขเงินลงทุนโดยตรงหรือ FDI จากการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศ สำหรับปี 2025 เศรษฐกิจยังคงเติบโตจากการอัปเกรดดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม (VNI) เข้าสู่ตลาด FTSE และการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลัง คาดเป้าดัชนี VNI ปีหน้าจะอยู่ที่ 1539 จุด เพิ่มขึ้น 24% YoY
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ เช่น อัตราดอกเบี้ย, ความขัดแย้งทางการเมือง, และความล่าช้าในการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์จากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำกลุ่ม 1) การเงิน (VCB, ACB, HDB) 2) กลุ่มสาธารณูปโภค (MWG, PNJ) 3) กลุ่มเทคโนโลยี (FPT)
พร้อมกันนี้ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังมาเปิดมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย รวมถึงทีมวิเคราะห์หยวนต้าเวียดนาม และนักกลยุทธ์ของหยวนต้า (ประเทศไทย) มาร่วมแบ่งปันเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดของไทยและเวียดนาม ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดทุนของไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกเปิดโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ และเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างหยวนต้า (ประเทศไทย), นักลงทุน และคู่ค้าจากทั่วโลก
ด้านนางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า สภาวะการลงทุนในปัจจุบันที่ท้าทายและซับซ้อน การได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ครบถ้วนจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่างาน สัมมนาครั้งนี้จะช่วยเสริมมุมมองและสร้างโอกาสในการลงทุนให้แก่นักลงทุนสถาบันได้เป็นอย่างดี
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ได้คัดเลือกบจ.ของไทย 33 แห่ง ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกันกว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของมูลค่าตลาดในประเทศ ซึ่งผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน ไม่เพียงแต่เฉพาะด้านความแข็งแกร่งทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล ESG อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายวิเคราะห์ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงทำให้ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีการพัฒนาบทวิเคราะห์ ESG Rating เป็นของตัวเองและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้งานวิเคราะห์มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ การที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เป็นส่วนหนึ่งของ Yuanta Financial Group ทำให้มีเครือข่ายที่ช่วยให้สามารถนำเสนอโอกาสการลงทุนที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมถึงโอกาสจากทั่วภูมิภาคเอเชียอีกด้วย ซึ่งงานสัมมนา “YUANTA THAILAND’S INVESTMENT INSIGHTS 2025” ในครั้งนี้ยังมีผู้บริหารของบริษัทชั้นนำในประเทศเวียดนามจำนวน 5 บริษัท ที่มาร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเศรษฐกิจเวียดนามและเจาะลึกโอกาสการลงทุนในตลาดเวียดนาม ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนเป็นอย่างมาก
“บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ได้คัดเลือกบจ.ของไทย 33 แห่ง และของเวียดนาม 5 แห่งมาให้เจาะข้อมูลเชิงลึก นักลงทุนสถาบันบางรายบินมาเพื่อการนี้ เพื่อพบกันแบบ One on One ได้ข้อมูลอย่างละเอียดจากผู้บริหารบจ.โดยตรง เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนอย่างแน่นอนมั่นใจว่า บล. หยวนต้า มีความพร้อมในทุก ๆ ด้านที่จะเป็นคู่คิดสำคัญให้กับทุกท่านในการหาโอกาสการลงทุนและต่อยอดสู่การสร้างผลตอบแทนจากตลาดทุนไทยต่อไป”นางบุญพรกล่าว
ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) นางบุญพรกล่าวว่า ตั้งเป้าขึ้นเป็นโบรกเกอร์อันดับ 1 ในกลุ่มลูกค้าในตลาดเอเชีย จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 3 และคาดว่าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 3-4 ปีจากนี้ หลังจากมีกำไรที่มั่นคง พิจารณาจากรายได้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบมัลติ โปรดักส์สัดส่วน 60% เช่น ธุรกิจบริหารความมั่นคั่ง (wealth ) ตัวแทนขายหุ้นกู้, DR เพื่อลดธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เหลือ 40% เพราะแนวโน้มค่าคอมมิชชั่นจะเหลือ 0% โดยวางเป้าหมายรายได้จากนักลงทุนสถาบันเพิ่มเป็น 10-15% จากปัจจุบันมีไม่ถึง 5% จึงเป็นที่มาของการจัดสัมมนาครั้งนี้
” บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) มีกำไรทุกปี แต่ยังไม่มั่นคง หากเสนอขายหุ้น IPO คงจะได้รับความสนใจไม่มากนัก ดังนั้นเราจะต้องรอเวลาในการสร้างกำไรอย่างยั่งยืนก่อน ซึ่งนอกจากการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มกำไร อาทิ ธุรกิจ wealth มีค่าธรรมเนียมถึง 1.5% ขณะที่ค่าคอมมิชชั่นซื้อขายหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่อง เรายังต้องบริหารความเสี่ยงด้วย เช่นการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์(มาร์จิ้น) เคยให้สูงสุดถึง 16,000 ล้านบาท ตอนนี้ลดลงเหลือ 10,000 ล้านบาท ให้กับนักลงทุนจริงๆ ไม่ปล่อยให้เจ้าของบริษัทจดทะเบียน “นางบุญพรกล่าว
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นในปีนี้อยู่ที่ 1,450 จุด คาดการณ์กำไรต่อหุ้นหรือ EPS อยู่ที่ 92 บาท เติบโต 20% จากฐานต่ำ ส่วนปี 2568 คาดการณ์ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,600 จุด EPS อยู่ที่ 97 บาท เศรษฐกิจเติบโต 3.2% จากการขยายการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน
กลยุทธ์การลงทุนในปี 2568 แนะนำกลุ่ม Yield Play เช่น SAWAD มองสำรองลดลง และ NPLs ดีขึ้น และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากสงครามการค้า (นิคมอุตสาหกรรม แนะ AMATA) ธีมเศรษฐกิจโตและนโยบายภาครัฐสนับสนุน ยังคงมีมุมมองบวกต่อ CPAXT และ CPALL ส่วน Data Center เน้นกลุ่มโรงไฟฟ้า คือ GPSC และ SYMC ด้านเวชภัณฑ์ยา คือ BDMS และ TMAN
สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) โบรกเกอร์หมายเลข 19 ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของวงการหลักทรัพย์ การันตีด้วยรางวัลด้านการวิเคราะห์ นวัตกรรม และล่าสุดรางวัล SET Award of Honor 2024 ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสำหรับบริษัทที่รักษาคุณภาพของการดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องมากว่า 3 ปี
———————————————————————————————————————————————————–