“คิงส์ฟอร์ด”คาดแนวต้านดัชนี 1,480 จุด แนะ IVL-CPAXT

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,450 – 1,460 จุด แนวต้าน 1,480 จุด คาดปัจจัยหนุนเฟดอาจลดดอกเบี้ยอีกครั้งธ.ค.นี้ หลังประชุมเมื่อวานนี้มีมติลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด หุ้นแนะนำ IVL-CPAXT

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,450 – 1,460 จุด แนวต้าน 1,480 จุด คาดได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งใน ธ.ค. ส่งผลให้แรงกดดันจาก Dollar Index , US Bond Yield ลดลง กอปรกับรอประเมิน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนรอบใหม่ แนะนำทยอยซื้อ AMATA,WHA,ROJNA คาดได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต หุ้น ITEL, INSET ได้ประโยชน์จากงานก่อสร้าง Data Center หุ้น KBANK, SCB, KTB รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยในกลุ่มสินเชื่อรถยนต์, ที่อาศัย

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานนี้ DJIA +0.00%, S&P500 +0.74%, Nasdaq +1.5 ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +1.92%, เทคโนโลยี +1.83% หลังเฟดมีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 4.50 – 4.75% ส่วนข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3,000 ราย อยู่ที่ 221,000 ต่ำกว่าคาดที่ 227,000 ราย

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ ที่จะปรับลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% ลงเหลือ 15% กอปรลดกฏระเบียบ, ข้อจำกัดในภาคการเงิน กอปรได้ปัจจัยหนุนหลังเฟดมีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 4.5% – 4.75% โดยเงินเฟ้อสหรัฐกำลังปรับลงสู่เป้าหมายที่ 2%, ภาวะเศรษฐกิจเติบโตดี , อัตราว่างงานยังอยู่ระดับต่ำ และค่าจ้างแรงงานได้ผ่อนคลายลง

ส่วนระยะสั้นนโยบายการเงินยังไม่ได้รับผลกระทบจากผลการเลือกตั้ง ดังนั้น CME Fed Watch ชี้โอกาส 67.8% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 18 ธ.ค. นี้

ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม ม.มิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น พ.ย. คาด 71.0 & ต.ค. 70.5 และความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลังการประชุม FOMC

หุ้นแนะนำ ได้แก่ IVL (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.50 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 3Q67 จะออกมาดีกว่าตัวอื่นในกลุ่มปิโตรเคมีเนื่องจากไม่มีรายการด้อยค่าสินทรัพย์กดดันเหมือนไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรปกติมีแรงหนุนจากปริมาณขายและ spread ที่ทยอยฟื้นตัว บวกกับค่าใช้จ่ายหลังปรับโครงสร้างธุรกิจลดลง

ส่วน 4Q67 น่าจะประคองตัวได้แม้เป็น low season ด้วยผลจากการลดต้นทุน และในปี 68 ถึงจะเผชิญกับภาวะอุสาหกรรมที่ oversupply แต่น่าจะกลับมากำไรได้เพราะผ่านช่วง asset optimization ไปแล้ว ทั้งนี้ ตลาดประเมินปี 67 ขาดทุนสุทธิ 1.71 หมื่นล้านบาท และปี 68 พลิกมีกำไรสุทธิ 1.09 หมื่นล้านบาท

หุ้น CPAXT (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 37.19 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 1,952 ล้านบาท (+16%YoY, -10%QoQ) ใกล้เคียงกับ BB consensus ที่ 1,899 ล้านบาท (+3%) แม้จะมีปัจจัยกดดันจากรายการพิเศษ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการควบบริษัทและ Fx Loss ราว -458 ล้านบาท แต่การดำเนินงานหลักยังเป็นบวกดี YoY โดยเฉพาะยอดขายอาหารสด และ Omni Channel

ด้าน 4Q67 ช่วงถัดไป คาดว่าจะ +QoQ ตามฤดูกาล +YoY ต่อเนื่องมีแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศของภาครัฐฯ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ CPAXT* จะอยู่ที่ระดับ 10,416 ล้านบาท (+21%YoY) และ 12,037 ล้านบาท (+16%YoY)