“หุ้นโตเกียว”เช้านี้ลบ-“เอเชีย” บวกตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ

HoonSmart.com>>”ตลาดหุ้นเอเชีย” เช้านี้ส่วนใหญ่ปรับขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรงรับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นักลงทุนจับตาผลต่อเศรษฐกิจและโลกจากประกาศเก็บภาษีสูงขึ้น

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลงจากที่เปิดบวกในช่วงเช้า ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่พุ่งแรงเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ในกลุ่ม Prime Marke กลุ่มที่นำการปรับขึ้นได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มประกันภัย และกลุ่มอุปกรณ์ขนส่ง

เวลา 9.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่นเงินดอลลาร์อยู่ที่ 154.32-33 เยน จาก 154.59-69 เยนในนิวยอร์กและจาก 153.93-95 เยนในโตเกียวเวลา 17.00 น.วันพุธ

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ เผยว่าใน เดือนกันยายนค่าจ้างที่แท้จริงของญี่ปุ่นลดลง 0.1%จากปีก่อนหน้า นับเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

ค่าจ้างที่แท้จริง ซึ่งเป็นมาตรวัดกำลังซื้อของผู้บริโภคในที่ทำงานที่มีพนักงาน 30 คนขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่ลดลง 0.4% ในเดือนสิงหาคม กระทรวงฯ ระบุว่า ค่าจ้างที่เป็นตัวเงิน หรือรายได้เงินสดเฉลี่ยต่อเดือนต่อพนักงาน รวมถึงค่าพื้นฐานและค่าล่วงเวลา เพิ่มขึ้น 2.8% เป็น 292,551 เยน (1,890 ดอลลาร์) เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 33 ติดต่อกัน

ณ เวลา 10.12 น. เวลาในประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 39,321.87 จุด ลดลง 158.8 จุด , -0.4%

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับขึ้น หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นแรงเมื่อคืนนี้หลังโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนจับตาว่าการกลับมาตำแหน่งของทรัปม์ในครั้งที่สองจะมีผลต่อเศรษฐกิจและโลกอย่างไร จากประกาศจะเก็บภาษีสูงขึ้น

ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะลดภาษีเงินได้ เก็บภาษีนำเข้าสูงขึ้น และผ่อนคลายกฎระเบียบ การเก็บภาษีนำเข้าจากจีนที่สูงขึ้นเป็น 60% จะเพิ่มภาระให้กับจีนในขณะที่กำลังกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ และการเก็บภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจาก เม็กซิโก และประเทศอื่นๆ จะเพิ่มความเสี่ยงของสงครามการค้าและการหยุดชะงักอื่นๆ ต่อเศรษฐกิจโลก

บทวิเคราะห์ของ UBS ในวันพุธระบุว่า การเก็บภาษีศุลกากรเป็นนโยบายที่อาจมีผลสืบเนื่องมากที่สุดจากมุมมองทางเศรษฐกิจ การเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 60% และภาษีนำเข้า 10% จากที่อื่นๆ ของโลกอาจทำให้การค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนส่วนใหญ่เดินหน้าไม่ได้ ลดอุปสงค์ภายในประเทศของสหรัฐฯ และผลกำไรของบริษัท และนำไปสู่การเติบโตของ GDP ที่ลดลงทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศจีน

ความไม่แน่นอนล่าสุดยังส่งผลต่อสกุลเงินต่างประเทศอีกด้วย ค่าเงินหยวนoffshoreของจีนลดลงภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 โดยลดลงมากถึง 1.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ในประเทศจีน สื่อของรัฐรายงานว่าคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติ ได้ทบทวนแผนการเพิ่มหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นต่อไปอีกวัน หลังจากหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับแผนเมื่อวันจันทร์

ธนาคารแห่งอเมริกาคาดว่า จีนจะประกาศการออกพันธบัตรมูลค่า 6 ล้านล้านหยวนในช่วง3 ปีเพื่อรับโอนหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น

นอกจากนี้นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%ในวันพฤหัสบดี

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,410.75 จุด เพิ่มขึ้น 26.95 จุด, +0.8%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 20,736278 จุด เพิ่มขึ้น 197.89 จุด, +0.96%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,568.15 จุด เพิ่มขึ้น 28.77 จุด, +0.26%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 23,419.44 จุด เพิ่มขึ้น 202.06 จุด, +0.87%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.52 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ซื้อขายที่ 72.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.63 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ซื้อขายที่ 75.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
———————————————————————————————————————————————————–