กลุ่มเอไอเอ อู้ฟู่ VONB Q3/67 โต 16% มั่นใจกำไรไปต่อรับกระแสเอเชียออมพุ่ง

HoonSmart.com>>กลุ่มบริษัทเอไอเอ เผยในไตรมาส 3 มูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 16% อยู่ที่ 1,161 ล้านเหรียญสหรัฐ ราว 39,184 ล้านบาท งวด 9 เดือนพุ่ง 22% อัตรากำไร VONB โต 2.4 จุด มั่นใจไปต่อ ตามยอดออมเงินคนเอเชียพุ่งเหตุสวัสดิการรัฐให้ไม่พอยังชีพ

นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้น16% คิดเป็น 1,161 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 39,184.91 ล้านบาท) และมีการเติบโตจากทุกภาคส่วนธุรกิจในไตรมาสที่สามของปี 2567 

ทั้งนี้ VONB ที่เพิ่มขึ้น มาจากการเติบโตใน 15 ตลาด จาก 18 โดยพรีเมียร์ เอเจนซี่ สสร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ได้ถึง 15% โดยได้รับการสนับสนุนจากกิจกรรมและผลผลิตของตัวแทนที่เพิ่มสูงขึ้น

สำหรับการรับสมัครตัวแทนใหม่ยังคงแข็งแกร่งโดยเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก อีกทั้งจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานให้กับกลุ่มบริษัทยังเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปี 2566 

มูลค่าธุรกิจใหม่ที่มาจากพันธมิตร เติบโตถึง 16% โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตที่ยอดเยี่ยมจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ 

“เราประสบความสำเร็จในการสร้างสถิติสำหรับมูลค่าธุรกิจใหม่ในสามไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความหลากหลายทางธุรกิจ”นายหลี่ หยวน ชยอง

นายหลี่ หยวน ชยอง กล่าวว่า การมุ่งเน้นในการดำเนินกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องได้ช่วยเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน หนุนให้เกิดการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เป็นตัวเลขสองหลักทั้งจากช่องทางตัวแทนและช่องทางพันธมิตร อีกทั้งการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของธุรกิจใหม่ ๆ นั้นได้สร้างกำไรและช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้และสร้างกระแสเงินสด ซึ่งทั้งหมดนี้ตอกย้ำความมั่นใจในการที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงิน

ด้านเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) สำหรับกลุ่มบริษัทเติบโตขึ้น 14% เป็น 2,212 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่สามของปี 2567 อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB Margin) เพิ่มขึ้น 0.8 จุดเมื่อเทียบเป็นรายปี และยังคงแข็งแกร่งที่ 52.2% อัตรากำไรที่รายงานตามมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) ยังคงมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้น 9% เป็น 10,301 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 3

ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียมีความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากการออมส่วนบุคคลที่สูงขึ้น ประชากรมีอายุมากขึ้นแต่มีอัตราการเข้าถึงประกันภัยต่ำ รวมถึงสวัสดิการการคุ้มครองที่จำกัดในภูมิภาค

“เรามีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการนี้เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว แม้จะมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาคในระยะใกล้ก็ตาม”นายหลี่ หยวน ชยอง กล่าว

นายหลี่ หยวน ชยอง มั่นใจว่าการดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เอไอเอสามารถคว้าโอกาสระยะยาวมหาศาลในตลาดประกันชีวิตและสุขภาพในเอเชีย เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ทำกำไรได้ ซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงการสร้างเงินกองทุนส่วนเกิน และมูลค่าผู้ถือหุ้นที่มากขึ้น