ดาวโจนส์ปิดร่วง 140 จุด S&P 500-Nasdaq บวก

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดดิ่งลบ 140 จุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ลดลง ส่วน S&P 500 และ Nasdaq บวกจากผลการดำเนินงาน Tesla  ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวกเล็กน้อย ราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 24 ต.ค.ปิดที่ 42,374.36 จุด ลดลง 140.59 จุด หรือ -0.33% เพราะถูกกดดันจากผลการดำเนินงานที่แย่ลงของ IBM และของอีกหลายบริษัทที่อยู่ในดัชนี แต่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น นักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Tesla

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,809.86 จุด เพิ่มขึ้น 12.44 จุด, +0.21%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,415.49 จุด เพิ่มขึ้น 138.83 จุด, +0.76%

หุ้น Tesla ปรับขึ้นมากสุดโดยพุ่งขึ้นเกือบ 22% หลังจากประกาศผลประกอบการไตรมาสสามซึ่งเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ และเป็นกาปรรับขึ้นในวันเดียวดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 หุ้น Molina Healthcare เพิ่มขึ้น 17.7% จากกำไรและรายได้ที่ดีเกินคาด หุ้น Whirlpool และ UPS ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันหลังจากรายงานผลการดำเนินงาน

หุ้น IBM ซึ่งลดลงมากกว่า 6% ฉุดดาวโจนส์ให้ปรับลง หลังรายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาของบริษัทต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์เล็กน้อย หุ้น Boeing ลดลง 1.2% หลังจากที่ช่างเครื่องบริษัทไม่รับสัญญาจ้างฉบับใหม่

จนถึงขณะนี้มีบริษัท S&P 500 ประมาณ 160 แห่งที่ประกาศผลประกอบการรายไตรมาส แต่การเติบโตของกำไรของกลุ่มนี้ถือว่าน้อยมาก จากการติดตามรายงานที่ออกมาแล้วและการประมาณการสำหรับบริษัทที่จะรายงาน บ่งชี้อัตราการเติบโตของกำไรโดยรวมของบริษัทใน S&P 500 ที่ 3.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการประเมินของ FactSet

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง โดยอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบสามเดือนในช่วงก่อนหน้า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีแตะระดับ 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของช่วงโมงซื้อขาย

ร็อบ ฮาเวิร์ท นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสจาก U.S. Bank Asset Management กล่าวว่าแรงกดดันต่อตลาดมาจากด้านอัตราดอกเบี้ย บั่นทอนความกระตือรือร้นของตลาด และยังไม่มีข่าวผลการดำเนินงานมากพอที่จะขับเคลื่อนตลาดไปสู่จุดสูงสุดใหม่

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่จากกระทรวงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น 4.1% มาที่ 738,000 ยูนิตในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 และสูงกว่า 720,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงาน จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 15,000 ราย มาที่ 227,000 ราย ต่ำกว่า 241,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

เอสแอนด์พี โกลบอล รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นมาที่ 54.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน

ตลาดยุโรปปิดบวกเล็กน้อย จากที่ปรับขึ้นในช่วงแรก นักลงทุนประเมินสัญญาณของการชะลอตัวของกิจกรรมทางธุรกิจและรายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก Evolution บริษัทเกมออนไลน์และ ผู้ผลิตรถยนต์ Renault รวมถึงบริษัทผู้บริโภครายใหญ่อย่าง Unilever

กลุ่มเดินทางและสันทนาการนำการปรับขึ้นโดยเพิ่มขึ้น 3.2% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่ Evolution ของสวีเดนพุ่งขึ้น 15% หลังจากรายงานผลประกอบการไตรมาสสามซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ แม้จะมีปัญหาอย่างต่อเนื่องกับแรงงานจอร์เจียก็ตาม

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูปรับขึ้นรองลงมา โดยหุ้น Hermes ผู้ผลิตกระเป๋า Birkin เพิ่มขึ้น 1% หลังจากรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่สาม ช่วยหนุนให้หุ้น Kering เจ้าของ Gucciเพิ่มขึ้น 2% ท่ามกลางคำเตือนเรื่องรายได้จากการดำเนินงานในปี 2024

กลุ่มรถยนต์เพิ่มขึ้นด้วยแรงหนุนจาก Renault ผู้ผลิตรถยนต์ฝรั่งเศส ที่เพิ่มขึ้น 4.7% หลังจากรายได้รายไตรมาสเพิ่มขึ้นเกินคาด
หุ้น Unilever และ Danone เพิ่มขึ้น 2.9% และ 2.8% ตามลำดับ หลังจากที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมียอดขายในไตรมาสที่สามดีกว่าคาด จากการที่ชะลอการขึ้นราคา และลงทุนเพื่อรชนะใจนักช้อปที่หันไปหาแบรนด์ที่ถูกกว่าในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
กลุ่มของใช้ส่วนตัวและของใช้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นเกือบ 1.1%

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนชะงักงันอีกครั้งในเดือนตุลาคมและยังคงหดตัวนั้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 518.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด, +0.03%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,269.38 จุด เพิ่มขึ้น 10.74 จุด, +0.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,503.28 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด, +0.08%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,443.00 จุด เพิ่มขึ้น 65.38 จุด, +0.34%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 70.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 74.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

———————————————————————————————————————————————