HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ลดลง 57 จุด หลังข้อมูลเงินเฟ้อเดือนก.ย. สูงกว่าคาดเล็กน้อย ส่วนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เร่งตัวขึ้น นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 3/67 ของธนาคารรายใหญ่ ด้าน Bond Yield อ่อนตัวลง “ราคาน้ำมันดิบ” พลิกมาปรับขึ้นแรง ก่อนที่พายุเฮอร์ริเคนมิลตันเคลื่อนตัวผ่านรัฐฟลอริดา ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 10 ตุลาคม ปิดที่ 42,454.12 จุด ลดลง 57.88 จุด หรือ -0.14%
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,780.05 จุด ลดลง 11.99 จุด, -0.21%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,282.05 จุด ลดลง 9.57 จุด, -0.05%
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังรายงาน US CPI ก.ย. อยู่ที่ 2.4% และ ส.ค. 2.5% แต่สูงกว่าคาดที่ 2.3% YoY และ ก.ย. 0.20% สูงกว่าคาด 0.1% MoM ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 33,000 อยู่ที่ 258,000 สูงกว่าคาด 230,000 ราย ดังนั้นจากเงินเฟ้อสหรัฐที่ทรงตัวและตลาดแรงงานที่ชะลอตัว ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 80% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 7 พ.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม US PPI ก.ย. คาด 1.6% & ส.ค. 1.7% YoY และการเริ่มรายงานกำไร Q3/67 กลุ่มธนาคารพาณิชย์สหรัฐ ซึ่ง LSEG คาดกำไร Q3/67 บจ.ใน S&P500 +5% YoY
โดยกลุ่มอสังหาฯ -0.89%, บริการสื่อสาร -0.61% หลังข้อมูล US CPI ก.ย. สูงกว่าคาดเล็กน้อย และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับสูงกว่าคาด
สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อ CPI เดือนก.ย. +2.4% YoY ชะลอตัวลงจาก +2.5% ในเดือนที่แล้วแต่ก็ยังเป็นระดับที่สูงกว่า +2.3% ตามที่ตลาดคาด ด้าน Core CPI +3.3% YoY ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 และสูงกว่าตลาดคาดที่ +3.2% โดยมีปัจจัยหลักมาจากค่าบริการและราคาอาหาร ในขณะที่ราคาพลังงานปรับตัวลงมาก
จานวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Initial Jobless Claims) เพิ่มขึ้น 33,000 ราย สู่ระดับ 258,000 ราย ซึ่งเป็นระดับที่มากที่สุด ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว สูงกว่าตลาดคาดที่ 230,000 ราย ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเฮเลน
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ Stoxx600 -0.18% กลุ่มผู้ผลิตอาวุธ, อุตสาหกรรม และเทคโนโลยีปรับลดลง -1% หลังอัตราตอบแทนพันธบัตรเยอรมัน 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.25% สูงสุดในรอบ 1 เดือนและนักลงทุนชะลอการซื้อขาย เพื่อรอฝรั่งเศสเปิดเผยงบประมาณประจำปี 2568
ตลาดหุ้นลอนดอน ถูกกดดันเนื่องจากหุ้นบางตัวขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งผู้ซื้อหุ้นจะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลที่จ่ายงวดล่าสุด แต่หุ้น GSK (แกล็กโซสมิทไคล์น) พุ่งขึ้น หลังยุติคดีความใน
สหรัฐฯ ที่กล่าวหาว่า Zantac ยาลดกรดที่ถูกยกเลิกการผลิตไปแล้วของ GSK เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 519.11 จุด ลดลง 0.94 จุด, -0.18%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,237.73 จุด ลดลง 6.01 จุด, -0.07%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,541.59 จุด ลดลง 18.50 จุด, -0.24%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,210.90 จุด ลดลง 44.03 จุด, -0.23%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 2.61 ดอลลาร์ หรือ 3.56% ปิดที่ 75.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.82 ดอลลาร์ หรือ 3.68% ปิดที่ 79.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังมีรายงานว่าการใช้เชื้อเพลิงในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ก่อนที่พายุเฮอร์ริเคนมิลตัน (Milton) จะเคลื่อนตัวผ่านรัฐฟลอริดา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความเสี่ยงด้านอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง และสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์พลังงานจะเพิ่มขึ้นในจีนและสหรัฐฯ