“ชูวิทย์” บิ๊ก NER เดินสายพบนักลงทุนไม่หยุดก่อนหุ้นซื้อขาย 7 พ.ย.นี้ ชี้กระแสตอบรับดี พี/อี ต่ำ ชูจุดเด่น ผลประกอบการดี กำไรสม่ำเสมอ ไม่เก็งกำไรยาง ซื้อขายของจริง ตั้งเป้าขยายกำลังผลิต 100% ในปี 2563
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยว่า วันที่ 7 พ.ย. หุ้น NER เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มั่นใจราคาเหนือจอง 2.58 บาท เนื่องจาก การเดินสายพบนักลงทุนต่อเนื่อง ล่าสุดช่วงวันหยุดที่ผ่านมา พบนักลงทุนอยุธยา กระแสตอบรับดีเพราะ เป็นหุ้นที่มีพี/อี เรโชต่ำ ไม่ถึง 10 เท่า ผลประกอบการดี รายได้-กำไร เติบโตสม่ำเสมอ
ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท ยอดขาย 9,800 ล้านบาท และครึ่งปี / 2561 กำไรสุทธิ 166 ล้านบาท ยอดขาย 3,900 ล้านบาท ทั้งปียอดขายตั้งไว้ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน NER มีกำลังผลิต 230,000 ตัน/ปี ปี 2562 เพิ่มกำลังผลิต 6 หมื่นตัน หรือ 26 % เป็น 290,000 ตัน และปี 2563 เพิ่มกำลังผลิตอีก 1.7 แสนตัน หรือ 74 % เป็น 4.6 แสนตัน หรือเพิ่มเท่าตัวจากปี 2561 จากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโรงงานแห่งใหม่ โดยจะเริ่มก่อสร้างปลายเดือนพ.ย.นี้ แล้วเสร็จปลายปี 2562 นำเงินจากการระดมทุนไปขยายกำลังผลิต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ธุรกิจ NER ซื้อมา-ขายไป ยางแผ่นรมควัน แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ซื้อ-ขายรายวันให้กับลูกค้าทั่วไป และขายให้กับลูกค้าประจำหลัก 22 ราย มีสัดส่วน 75 % ของยอดขาย โดยมีบริษัท บริดสโตน เป็นลูกค้ารายใหญ่ เดือนละ 3,000 – 4,500 ตัน อันดับ 2 บริษัทยาง หลิงหลง เดือนละ 3,000 ตัน
“ลูกค้าประจำที่ซื้อขายกับ NER จำนวน 22 ราย ผ่านการคัดกรองมา 10 ปี หรือรายที่น้อยสุด 5 ปี บริษัท ฯ จึงไม่มีความเสี่ยงด้านลูกค้า และยังได้กระจายความเสี่ยงด้วยการส่งขายต่างประเทศ สัดส่วน 40 % ในประเทศ 60 % ที่สบายใจคือ งบการเงินไม่ซ้ำซ้อน ธุรกิจซื้อมาขายไป ไม่เก็งกำไร ข้อดีของ NER คือ ทำธุรกิจสินค้าเกษตร (คอมมูนิตี้ ) ที่ไม่มีความเสี่ยง ไม่เทรดดิ้งกระดาษ ไม่เก็งกำไร ซื้อขายของจริง เราเป็นหุ้นต่างจังหวัด ณ เวลาที่เราเป็นขณะนี้ ถ้าคิดถึง NER ให้คิดถึงผลประกอบการดี กำไรสม่ำเสมอ แต่ถ้าเป็นธุรกิจยาง คนทำยางจะนึกถึง NER ต้องการซื้อ-ขายยาง ่ติดต่อ NER มีโอกาสได้ของสูง”
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ข้อได้เปรียบของ NER คือ การซื้อขายยางทุกวัน ไม่ว่าราคายางจะถูกหรือแพง ไม่สต็อกสินค้าซึ่งเป็นความเสี่ยง และความเสี่ยงของบริษัท ฯ คือ ลูกค้าทิ้งสินค้า ซึ่งโอกาสเกิดกับ NER ไม่มี เพราะบริษัทคัดกรองลูกค้าอย่างดีทั้ง 22 ราย นอกจากนี้บริษัท กระจายความเสี่ยงการรับซื้อยางแผ่นรมควันจากแหล่งหลักในภาคอีสาน 85 % ที่เหลือภาคใต้ และภาคเหนือ