“คิงส์ฟอร์ด”คาดกลุ่มพลังงานหนุนตลาด แนะ PTTEP หุ้นเด่น BTG-BDMS

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,440 จุด หากยืนได้แนะนําถือพอร์ตต่อ แนวต้าน 1,455 – 1,460 จุด แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานขึ้นตามราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 3.7% กังวลอิสราเอลตอบโต้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังของอิหร่าน แนะ PTTEP คาดกำลังผลิตเพิ่มขึ้นไตรมาส 4 นี้ ติดตามประชุมครม. มาตรการกระตุันเศรษฐกิจ แนะ BTG, BDMS

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,440 จุด หากยืนได้แนะนําถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,455 – 1,460 ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ส่งบวกต่อกลุ่มปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์ แนะนําซื้อเก็งกําไร SCC,SCGP,PTTGC,IVL,WHA,AMATA ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน แนะ PTTEP หลังราคาน้ำมันดิบวานนี้ +3.7% กอปรกับคาดกําลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นในช่วง Q4 นี้

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.76 ดอลลาร์ อยู่ที่ 77.14 ดอลลาร์/บาร์เรล, Brent ส่งมอบธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.88 ดอลลาร์ อยู่ที่ 80.93 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลอิสราเอลอาจพิจารณาตอบโต้กลับด้วยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังของอิหร่าน ซึ่งอาจกระทบต่ออุปทานน้ํามันของตลาดโลก เนื่องจากอิหร่านมีกําลังการผลิตคิดเป็น 3% ของกําลังผลิต
ทั่วโลก

ด้าน CPI ไทย ก.ย. อยู่ที่ 0.61% ต่ํากว่าคาดที่ 0.78% และ CPI ไทยเฉลี่ย 9 เดือนอยู่ที่ 0.2% แม้ว่า CPI ใน Q4/67 คาดจะปรับขึ้นอยู่ที่ 1.49% จากราคาพลังงานและผักสดคาดจะปรับสูงขึ้น แต่กรอบเงินเฟ้อไทยปีนี้ยังอยู่ที่ 0.50% ส่งผลให้ กนง.มีโอกาสปรับลดดอกเบียอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้

ประเด็นสําคัญวันนี้ติดตามผลการประชุม ครม.ต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนในช่วง Golden Week

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA -0.94%, S&P500 -0.96%, Nasdaq -1.18% กังวลภาวะสงครามในตะวันออกกกลาง ส่งผลให้ VIX Index ปรับขึ้นอยู่ที่ระดับ 22.64 กอปรกับ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.02% หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ย. เพิ่มขึ้น และอัตราว่างงาน ก.ย. ลดลง CME Fed Watch ชี้โอกาส 86.0% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุม 7 พ.ย. สัปดาห์นี้

วันพุธติดตาม Fed Minutes ก.ย., พฤหัส US CPI ก.ย. คาด 2.3% & ส.ค. 2.5% YoY, ศุกร์ US PPI ก.ย. คาด 0.1% & ส.ค. 0.2% MoM รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐ

หุ้นเด่นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BTG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.25 บาท) บริษัทรายงานกําไรสุทธิใน 2Q67 อยู่ที่ 628 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนใน 1Q67 และ 2Q66 หนุนจากราคาหมูและไก่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง

สําหรับแนวโน้ม 3Q67 ยังเติบโตต่อเนื่อง QoQ, YoY โดยราคาหมูในประเทศยังอยูในระดับสูง หลัง สถานการณ์ราคาหมูเถื่อนเริ่มคลี่คลายลง ส่วนราคาไก่ก็มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเช่นกันจากตลาดส่งออก ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ําจากผลิตผลในการเพาะปลูกสูงขึ้น ดังนั้นจึงส่งผลบวกต่อ GPM ทั้งนี้ อิงจาก Consensus ตลาดคาดปี 67 จะกลับมากําไร 2.3 พันล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 1.4 พันล้านบาท

หุ้น BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท) สําหรับ 3Q67 เบื้องต้นเราคาดว่า กําไรปกติของ BDMS จะปรับขึ้น QoQ ตามฤดูกาล(ฤดูฝนเป็นบวกต่อกลุ่มผู้ป่วยไทยและผู้ป่วย Expat) และปรับขึ้น YoY ตามการเติบโต Volume ผู้ป่วยที่เห็นต่อเนื่องมาจากการโต YoY ครึ่งแรกของปี

ขณะที่ในเชิงรายได้2H67จะมีแรงหนุนเพิ่มเติมจาก Capacity ที่สูงขึ้นของร.พ. โดยมี.ค.67 ที่ผ่านมาเปิด พญาไทยศรีราชา 2 (IPD 113 เตียง) ไปแล้ว ส่วน 3Q67 เปิดศูนย์มะเร็ง
ภูเก็ต และ 4Q67 ถัดไป ร.พ.เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล(IPD 100 เตียง) นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติในตลาดใหม่อย่างซาอุฯ ปัจจุบัน เราประมาณการกําไรสุทธิป67 ที่ 15,824 ล้านบาท ( +10.1%YoY)