PTG-ภาครัฐ นับถอยหลัง “โมโตจีพี”ปีที่ 5 กรังด์ปรีซ์ใหญ่ระดับโลกในไทย

HoonSmart.com>>รัฐบาลไทยผนึกภาคเอกชน แถลงความพร้อมโค้งสุดท้ายศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก “PT Grand Prix of Thailand 2024”  พร้อมเปิดตัวโทรฟี่ ThaiGP สง่างามด้วยธีม “บัลลังก์เจ้าแห่งความเร็ว” สไตล์ไทยโมเดิร์นผสานความงดงามปราสาทหินพนมรุ้ง  ภายในงานจะได้พบกับจุดไฮไลท์ใหม่ Thai Thai Pavilion นำเสนอเสน่ห์แบบไทยสุดอลังการ 25-27 ต.ค.นี้ที่ จ.บุรีรัมย์ การันตีชื่อชั้นความมันส์ พร้อมสร้างความประทับใจและความสุขครบเครื่องระดับโลกสู่แฟนกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกแล้ว

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวนับถอยหลังการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่าง 25- 27 ตุลาคม 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว “ถ้วยรางวัลการแข่งขันหรือโทรฟี่” ThaiGP ประจำปี 2024 ด้วยธีม “บัลลังก์เจ้าแห่งความเร็ว” ลักษณะไทยโมเดิร์น ผสานความงดงาม “ปราสาทหินพนมรุ้ง” ส่วนกลางถ้วยมีสัญลักษณ์การพนมไหว้ “สวัสดี” สื่อถึงการต้อนรับอันอบอุ่นและการให้ความเคารพในแบบไทย “ตัวเลข ๑ ของไทย” อยู่ตรงกลางและด้านล่างจะเป็นลวดลายไทย ส่วนวัสดุของตัวถ้วยมีการดัดแปลงนำ “ชิ้นส่วนรถมอเตอร์ไซค์” มาเป็นส่วนหนึ่งของถ้วยรางวัล เช่น ตัวน็อต และ เฟรมอลูมิเนียม 5 แผ่น สื่อถึงการจัดการแข่งขันโมโตจีพีที่ประเทศไทยเป็นปีที่ 5 ด้วยสีทองและดำที่เป็นสีแห่งเกียรติยศ ความแข็งแกร่ง ความสง่าและทรงคุณค่า การออกแบบสอดผสานความงดงามแบบไทยสู่สายตาชาวโลก

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โมโตจีพี ถือเป็นการแข่งขันกีฬาระดับโลกรายการใหญ่ที่สุดที่มีการจัดในประเทศไทย มีผู้ติดตามชมมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก โอกาสสำคัญที่จะได้แสดงศักยภาพมาตรฐานการจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติฝีมือคนไทยและพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาไทยในทุกมิติ รวมทั้งช่วยผลักดันการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยไปสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง

“นับถอยหลังอีกเพียงไม่ถึง 1 เดือน จะเข้าสู่สุดสัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตไทย จากความร่วมแรง ร่วมใจของหน่วยงานทั้งส่วนกลาง-ภูมิภาค ภาคเอกชน-ประชาชนที่ร่วมกันวางแผนงานเป็นอย่างดีนั้น จะทำให้การจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะบรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลตั้งไว้ รวมทั้งทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างราบรื่นและประทับอยู่ในความทรงจำของทุกคนตลอดไป เป็นสนามแข่งขันที่ถูกยกย่องว่าที่ดีสุด มีความสุขที่สุดในโลก ครบเครื่อง คุ้มค่าที่สุด ตามเป้าหมายสำคัญของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะใช้ “มหกรรมกีฬา” ในการเป็นแรงส่งสู่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องทั้งระบบ สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม”

 

 

 

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 5 ของการแข่งขันโมโตจีพีบนผืนแผ่นดินไทย แต่เป็นปีแรกของ PTG ในฐานะ Title Sponsor รายใหม่ของการแข่งขัน ยาวนานต่อเนื่องถึง 3 ปี สิ่งหนึ่งที่ทาง PTG มองว่าสำคัญไม่แพ้กันคือการได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาประเทศไทยตามสโลแกน “บริษัทพลังงานของคนไทย เพื่อเติมความสุขให้คนไทยอยู่ดีมีสุข” นั่นคือการได้ประชาสัมพันธ์ประเทศสู่สายตาคนทั่วโลก แสดงศักยภาพคนไทยและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของคนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง

“ขอเชิญชวนทุกท่านให้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ระดับโลก ในสีสันที่แตกต่างออกไปในครั้งนี้ ภายใต้กิจกรรมมากมายที่เตรียมไว้ต้อนรับที่ PTG Pavilion โดยได้ยกทัพแบรนด์ในเครือของ PTG ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น PT Station, PT Maxnitron, Autobacs, กาแฟพันธุ์ไทย, Coffee World, Max Card Plus ฯลฯ ขนสิทธิพิเศษ ของรางวัล และกิจกรรมสนุกๆ ให้ร่วมลุ้น แลก แจก ชม ช็อป อย่างเต็มอิ่มจุใจ รวมทั้งกิจกรรมสุด Exclusive ที่แฟนๆ จะได้กระทบไหล่นักแข่งคนดังทุกรุ่นแบบใกล้ชิด ซึ่งจะมีที่ PTG Pavilion ที่เดียวเท่านั้น คือ กิจกรรม Hero Walk และ Meet and Greet ซึ่งจะมีนักแข่งจากทุกคลาสไม่ว่าจะเป็น MotoGP Moto2 Moto3 แฟนๆ จะสามารถ ถ่ายภาพและขอลายเซ็นได้อย่างใกล้ชิด โดย PTG มุ่งมั่นและตั้งใจ ที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่แฟนมอเตอร์สปอร์ตจากทั่วโลกได้มาสัมผัสกับประสบการณ์อันยิ่งใหญ่นี้ด้วยกัน”

นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง กล่าวว่า หนึ่งในไฮไลต์ของการจัดโมโตจีพีวิถีไทยที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุด นอกจากจะได้ชมเรซที่สนุกสุดมันส์ แฟนความเร็วจากทั่วโลกยังได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมบันเทิงในรูปแบบของมอเตอร์สปอร์ตเฟสติวัล ซึ่งน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง เตรียมจัดเต็มความสนุกตลอดทั้ง 3 วัน

ด้านนายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า สนามช้างฯพร้อมเกิน 100% เพราะตลอดทั้งปีมีอีเวนต์ต่างๆ มากมาย ที่ต้องรองรับมาตรฐานระดับโลกทั้ง FIM และ FIA ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นผิวสนาม เจ้าหน้าที่บุคลากร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่พรั่งพร้อม ซึ่งปีนี้จะมีจุดเล็กๆ ที่เพิ่มมิติการแข่งขันในสนุก เร้าใจมากยิ่งขึ้นก็คือเรื่อง Misano Curve ที่ปีที่แล้วได้ทำเพิ่ม 1 จุด และปีนี้เพิ่มเป็น 3 จุด ที่โค้ง 1 โค้ง 5 และโค้ง 8 ซึ่งจะส่งผลให้การแข่งขันขับเคี่ยวกันสนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ส่วนลานกิจกรรมปีนี้ยังได้พบกับครั้งแรกของ Thai Thai Pavilion ที่มีคอนเซ็ปต์ต่อยอดจากโมโตจีพีวิถีไทย ที่จะนำเสนอเสน่ห์ วัฒนธรรมของไทย ทั้งงานศิลปะ หัตถกรรม ของกิน ของฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน นอกจากนี้ด้านการอำนวยความสะดวกของผู้ชม จังหวัดบุรีรัมย์เป็นแกนหลักในประสานไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบขนส่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อาสาสมัคร และที่พัก เพื่อให้ทุกๆ อย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดรองรับแฟนความเร็วผู้มาเยือนให้มีช่วงเวลาที่สุดแสนจะประทับใจ รับรองว่ามาชมการแข่งขันที่สนาม สนุกกว่ารับชมที่จอโทรทัศน์ที่บ้านแน่นอน

ปีนี้เรียกได้ว่าจะเป็นปีที่มีความสุขที่สุดของแฟน MotoGP ประเทศไทย เพราะนอกจากจะได้เชียร์นักบิดระดับโลกที่ชื่นชอบ ยังได้เชียร์ “ก้อง สมเกียรติ จันทรา” นักบิดที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย แข่งขันทิ้งท้ายในรุ่น Moto2 ก่อนที่ในฤดูกาลที่จะถึงในปี 2025 นี้ จะได้ขยับไปแข่งขันในรุ่นใหญ่ที่สุดของโลก MotoGP ได้สำเร็จ เป็นคนไทย คนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการกีฬารถจักรยานยนต์ของไทย

นอกจากนี้ยังมี PT Grand Prix of Thailand 2024 Expo ที่เนรมิตลานกิจกรรมด้านหน้าสนามช้างอินเตอร์- เนชั่นแนลเซอร์กิต เป็นงานเอ็กซ์โปสำหรับคนมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่ 09.00-20.00 น. ตลอด 3 วันเต็ม โดยมีทั้ง พาวิลเลียนขนาดยักษ์และร้านค้ารายย่อยมากมาย ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง, ฮอนด้า, ยามาฮ่า, โตโยต้า, ดูคาติ, กรมการขนส่งทางบก โดย กปถ. ฯลฯ ที่พร้อมสร้างสีสัน ความสนุกให้แก่แฟนๆ ได้ช็อปสินค้าแบรนด์ดังมากมาย รวมทั้งครั้งแรกกับการเนรมิต Thai Thai Pavilion ได้ส้มผัสความสวยงามของวัฒนธรรมไทย ชม ชิมเลือกซื้อของดีของขึ้นชื่อ ร้านอาหารชื่อดังจากบุรีรัมย์และทั่วประเทศมาไว้ในงาน ครบจบที่เดียว โดยลานกิจกรรมนี้ผู้ถือบัตรชมการแข่งขันทุกประเภทเข้าชมฟรี หรือซื้อบัตรแอดมิชชั่น (ADMISSION) ราคา 100 บาทต่อวัน หรือเหมา 3 วัน 200 บาท

บัตรเข้าชมการแข่งขันยังสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนบัตรแอดมิชชั่น (ADMISSION) ซื้อบัตรได้ที่บูธ All Ticket หน้างาน วันที่ 25-27 ต.ค. เท่านั้น! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram