กกพ.เปิดแข่งไฟฟ้าพลังงานทดแทนก.ย.นี้ เฟส 2 รวม 2,180 MW รู้ผลทันปีนี้

HoonSmart.com>>กกพ.เตรียมเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลม  600 MW พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 1,580 MW ในเดือนก.ย.นี้  ให้สิทธิ์กับกลุ่มรายชื่อเดิม 198 ราย คาดว่าจะประกาศผลคัดเลือกภายในสิ้นปี 67

 

นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.อยู่ระหว่างการพิจารณาเตรียมออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 ภายในเดือนก.ย.นี้ โดยให้สิทธิ์กับกลุ่มรายชื่อเดิมจำนวน 198 รายที่ผ่านการพิจารณารอบแรก ยื่นแบบการแสดงความประสงค์ขอเข้าร่วมการคัดเลือก กกพ. จะพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากผลการประเมินความพร้อมตามเกณฑ์คะแนนคุณภาพ (Scoring) ที่ได้จัดทำไว้ โดยไม่ต้องปรับปรุงแก้ไขคำเสนอขายไฟฟ้า

“การประมูลครั้งนี้แบ่งเป็นพลังงานลมไม่เกิน 600 เมกะวัตต์ (MW) และพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินไม่เกิน 1,580 MW  คาดว่าจะประกาศผลคัดเลือกได้ภายในสิ้นปี 2567 การเร่งเดินหน้าการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จะช่วยให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการจัดหาพลังงานสะอาด เพื่อรองรับการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรม สนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net – Zero Carbon Emission)” นายพูลพัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้กลุ่มรายชื่อเดิมจำนวน  198 ราย เป็นผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาความพร้อมทางด้านเทคนิคขั้นต่ำ (Pass/Fail Basis) และได้รับการประเมินความพร้อมตามเกณฑ์คะแนนคุณภาพ (Scoring) แต่เนื่องจากการจัดหาครบตามเป้าหมายแล้วจึงไม่ได้รับการคัดเลือกในรอบที่ผ่านมา

การเปิดประมูลครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังเกิดกรณีฟ้องร้องทางกฎหมายส่งผลให้ศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกโครงการฯ ประเภทเชื้อเพลิงพลังงานลม จำนวน 22 ราย ส่งผลให้การจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ล่าช้ากว่ากำหนด มีผลต่อกระบวนการรับรองไฟฟ้าสีเขียวตามแนวทาง Utility Green Tariff (UGT) ของ กกพ. ที่ต้องอาศัยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในโครงการรับซื้อไฟฟ้า

นายพูลพัฒน์กล่าวว่า ภายหลังจากที่เกิดข้อพิพาททางปกครอง และศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกโครงการฯ ประเภทเชื้อเพลิงพลังงานลม ทำให้ กกพ. จะต้องชะลอโครงการเพื่อรอความชัดเจนจากผลของการอุทธรณ์คำสั่งทุเลาการบังคับดังกล่าว ต่อมาศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยกคำขอของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ทุเลาการบังคับตามประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกโครงการฯ แล้ว ทั้งนี้บริษัท วินด์ กาฬสินธุ์ 2 ได้ยื่นขอถอนฟ้องคดี โดยศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนคำฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความแล้ว ส่งผลให้ในปัจจุบันกระบวนการรับซื้อไฟฟ้าในรอบใหม่ที่ได้ล่าช้าไปจากกำหนดเดิมสามารถเดินหน้าต่อไปได้

เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2567 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้เห็นชอบหลักการการปรับเลื่อนกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) สำหรับโครงการฯ ประเภทเชื้อเพลิงพลังลมที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลปกครอง และมอบหมายให้ กกพ. พิจารณาปรับกรอบระยะเวลาการเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และปรับเลื่อน SCOD ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของแต่ละโครงการได้ตามสมควร ซึ่งต้องไม่ให้เกินกรอบภายในปี 2573 โดยให้ผู้ที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 22 ราย แจ้งความประสงค์การขอปรับเลื่อน SCOD เสนอให้ กกพ. พิจารณาก่อนลงนามสัญญาต่อไป

ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 2/2566 (ครั้งที่ 165) เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2566 กำหนดให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบสอง จำนวน 3,668.50 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย 1.พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน จำนวน 2,632 MW (แบ่งโควตาให้ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกในรอบแรก จำนวน 1,580 MW จะเหลือสำหรับเปิดเชิญชวนรับซื้อทั่วไป จำนวน 1,052 MW 2.พลังงานลม 1,000 MW (แบ่งโควตาให้ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกในรอบแรก จำนวน 600 MW จะเหลือสำหรับเปิดเชิญชวนรับซื้อทั่วไป จำนวน 400 MW    3. ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) จำนวน 6.50 MW และ4. ขยะอุตสาหกรรม จำนวน 30 MW

สำหรับการเปิดประมูลเฟสสองส่งผลดีต่อบริษัทผู้นำพลังงานทดแทน ได้แก่ GULF, BGRIM, BCPG, EA, EGCO, GPSC, RATCH