บล.ดาโอประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ 1,330-1,370 จุด เก็งกำไรค้าปลีก

HoonSmart.com>> บล.ดาโอ ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,330 – 1,370 จุด แรงหนุนจากประธาน Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยครั้งแรก 18 ก.ย. ตลาดหุ้นเกิดใหม่ได้ประโยชน์ ค่าเงินดอลลาร์แนวโน้มอ่อนค่าลงดีต่อตลาดหุ้น-ราคาทองคำ ด้านการเมืองทิศทางดีขึ้น ติดตามตัวเลขนำเข้า ส่งออกเดือนก.ค.-งาน Thailand Focus 2024 ระหว่าง 28-30 ส.ค.นี้ กลยุทธ์ลงทุนเน้นหุ้นใหญ่ ถือยาว ส่วนเก็งกำไรช่วงสั้นสลับธีมหุ้นได้ผลบวกมาตรการเศรษฐกิจ หุ้นแนะนำ CPAXT, HMPRO , CRC

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทย ยังมีโอกาสเดินหน้าต่อด้วยมุมมองและทิศทางการเมืองที่อาจพลิกผันเศรษฐกิจไทยได้และ Fed มีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ย ซึ่งมองตัวแปรสำคัญในต่างประเทศผ่านไปเกือบหมดแล้ว เหลืออิหร่าน-อิสราเอลและอิสราเอลกับฮามาสที่ยังมีการใช้กำลังทางหาร ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,330 – 1,370 จุด

“โน้มหุ้นไทย ยังไปได้ต่อ โดยเฉพาะถ้ายืนเหนือ 1,350 จุด ได้ ก็มีโอกาสที่จะเห็นดัชนีฯที่ 1,400 จุด ในอีกไม่นาน (ขึ้นกับการเมือง)”บล.ดาโอ ระบุ

ตลาดได้แรงหนุนจากประธาน Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยครั้งแรก 18 ก.ย. นักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะปรับพอร์ต รับการลดดอกเบี้ยรอไว้เลย ตลาดหุ้น EM น่าจะได้ประโยชน์ ขณะที่ค่าเงินดอลล่าร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ซึ่งจะดีต่อตลาดหุ้นและราคาทองคำ

สัปดาห์นี้ รอฟังแถลงตัวเลขการนำเข้าและส่งออกไทย จากสนค. รอบเดือนก.ค. ส่งออกเดือนมิ.ย.หดตัวอยู่ที่ -0.3% และนำเข้าขยายตัว 0.3% ซึ่งทั้งปีคาดเป้าการส่งออกไว้ที่ 1-2% ซึ่งในครึ่งปีแรกขยายตัวอยู่ที่ 2%

นอกจากนี้ติดตามงาน Thailand Focus 2024 วันที่ 28-30 ส.ค.นี้ จะมีบริษัทฯ เข้าร่วมกว่า 113 บริษัท จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนสถาบันต่างชาติ ชูให้เห็นการปรับตัวและการก้าวไปข้างหน้าของไทย โดยจากสถิติย้อนหลังช่วงที่จัดงาน SET Index มักจะปรับตัวขึ้น 7ใน 10 ครั้ง ซึ่งคาดว่าปีนี้อาจมีการปรับขึ้นเช่นกัน สถาการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลาย อาจได้เห็นความ
ชัดเจนของนโยบายนายกฯ ใหม่ในเร็วๆนี้

กลยุทธ์การลงทุนคงเดิม หุ้นใหญ่ ถือยาวได้ แต่การเก็งกำไรช่วงสั้น ต้องสลับ Theme ไปเรื่อยๆ โดยเรายังเน้นไปที่หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการเศรษฐกิจ

การปรับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ มีความเป็นไปได้ที่จะพยายามแก้ไขปัญหาลูกหนี้ (อย่างจริงจังมากขึ้น) และมาตรการเศรษฐกิจใหม่ น่าจะกระตุ้น GDP ให้สูงกว่าประมาณการปัจจุบัน (ปีนี้ 2.5%) ได้ หุ้นที่คาดได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ลำดับแรกๆ น่าจะเป็นหุ้นธนาคาร และจะทำให้ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลดีขึ้นด้วย หุ้นธนาคาร ทีมกลยุทธ์ให้ความสนใจกับ SCB, KTB

หุ้นอิงมาตรการเศรษฐกิจ ในส่วนของค้าปลีก เราคัดไว้ 3 ตัว คือ CPAXT, HMPRO , CRC ส่วนหุ้นจากสัญญาณ Technical ได้แก่ IVL, ITEL