“คิงส์ฟอร์ด”คาดแนวโน้มดัชนีทรงตัวรอคดีนายกฯพรุ่งนี้แนะ PTTEP-TACC

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนีทรงตัวรอคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯ วันพรุ่งนี้ วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,285 – 1,290 จุด แนวต้าน 1,300 – 1,310 จุด ด้านปัจจัยเสี่ยงต้องระวัง “สงครามในตะวันออกกลาง” หลังสหรัฐส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธและเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปในตะวันออกกลาง แนะซื้อเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน เช่น PTT,PTTEP,TOP,BCP ตามราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้ PTTEP, TACC

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,285 – 1,290 จุด แนวต้าน 1,300 – 1,310 จุด คาดดัชนีทรงตัวรอคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯ ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต้องระวัง คือ สงครามในตะวันออกกลาง แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน เช่น PTT,PTTEP,TOP,BCP ตามราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นและเก็งกำไร WHA,NER,COCOCO,CBG รายงานกำไร Q2/67 ดีกว่าคาด

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ปรับตัวขึ้น 3.22 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 80.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วน Brent ต.ค. เพิ่มขึ้น 2.64 อยู่ที่ 82.30 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล จากความกังวลสงครามในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธและเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปในตะวันออกกลาง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA -0.36%, S&P500 +0.00%, Nasdaq +0.21% ปิดทรงตัวคลายความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงน้อยกว่าคาด กอปร ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐ ก.ค.ยังอยู่ในโซนขยายตัว ขณะที่ความเกห็นของเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่หนุนให้ลดดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัวลง โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 50% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17 – 18 ก.ย. นี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม US PPI ก.ค. คาด 2.3% & มิ.ย. 2.6% YoY, วันพุธ US CPI ก.ค. คาดทรงตัวที่ 3.0% YoY และวันพฤหัสยอดค้าปลีกสหรัฐ ก.ค. คาด 0.4% และมิ.ย. 0% MoM และวันพุธรอรายงาน GDP ยูโรโซน Q2/67 ครั้งที่ 2 , GDP ญี่ปุ่น Q2/67 และข้อเศรษฐกิจจีน เช่น ราคาบ้าน, การลงทุนสินทรัพย์ภาวร, ผลผลิตภาคอุต ฯ, ยอดค้าปลีก และอัตราว่างงาน ก.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PTTEP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 175.00 บาท) ได้รับ sentiment บวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น หนุนจากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 2H67 คาดประคองตัวได้แม้ราคาน้ำมันจะผันผวนทั้งจากปัจจัยบวกและลบ

ขณะที่ 3Q67 จะเห็นปริมาณขายลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผน ดังนั้นแนะนำเลือกเก็งกำไรช่วงสั้นในจังหวะที่ราคาร่วงเพราะขึ้นเครื่องหมาย XD 4.50 บาท/หุ้น ในวันนี้

หุ้น TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.30 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 69 ลบ. (+28%YoY, +13% QoQ ) แม้มีปัจจัยลบจากราคากาแฟ(ต้นทุน)ที่สูงขึ้นอยู่บ้าง แต่ภาพรวมกำไรสามารถเป็นบวกได้ต่อเนื่องจาก 1.แรงหนุนเชิงรายได้ตามสภาพอากาศร้อนจัดในเดือน เม.ย.-พ.ค.67 2.การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 3.การออกสินค้าใหม่ๆเพื่อชดเชยมาร์จิ้น เช่น เจลี่ คอลลาเจน เป็นต้น

ด้านการดำเนินงาน 3Q67 แม้คาดอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ 4Q67 จะกลับมาดีอีกครั้ง ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี 67 และ 68 กำไรสุทธิของ TACC* จะอยู่ที่ระดับ 243 ล้านบาท (+18%YoY) และ 270 ล้านบาท (+11%YoY) ตามลำดับ