EA รอด! 9 แบงก์ไทย-เทศ 4 กองทุนอัดฉีด ขอยืดจ่ายเงินต้น 2 หุ้นกู้

HoonSmart.com>>”พลังงานบริสุทธิ์”  (EA) ปลดล็อคปัญหาสภาพคล่องระยะสั้นกว่า 8,000 ล้านบาท ทั้งเงินกู้ -B/E สถาบันการเงินทั้งไทยและต่างประเทศ 9 แห่ง 4 กองทุนภายใต้การบริหารของบลจ. แอสเซท พลัส เซ็นอนุมัติสัญญาเงินกู้ 3 ปี  มั่นใจเจรจาผู้ถือหุ้นกู้ 2 รุ่น วันที่ 9 และ 14 ส.ค.ผ่านได้ WIN-WIN กับทุกฝ่าย นำทีมงานเดินหน้า Turn Around ธุรกิจต่อเนื่อง

วันนี้  (9 ส.ค.2567) สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ 9 แห่ง รวมถึง 4 กองทุนภายใต้การบริหารของบลจ. แอสเซท พลัส  เซ็นสัญญาเงินกู้ให้กับบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA)  ระยะเวลา 3 ปี โดยบริษัทฯจะทยอยจ่ายเงินกู้คืนผ่านกระแสเงินสด (Cash Flow) จากการดำเนินงานตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาครัฐ (PPA)

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ กล่าวว่า  การที่สถาบันการเงินทั้ง 9 แห่งและกองทุนอีก 4 กองทุนของบลจ. แอสเซท พลัส ร่วมให้เงินกู้ EA เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า บริษัทฯยังมีการประกอบธุรกิจและรับรู้รายได้จากการขายไฟตามปกติ และการที่ได้รับเงินกู้ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯไม่มีปัญหาสภาพคล่อง จากเงินกู้ระยะสั้นและตั๋วแลกเงิน (B/E) ในอีก 1 ปีข้างหน้า

ส่วนหุ้นกู้ 2 รุ่น ประกอบด้วย หุ้นกู้รุ่นที่ 1 EA248A วงเงิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระในวันที่ 15 ส.ค. 2567  จะขอเลื่อนกำหนดการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระเฉพาะเงินต้นออกไปอีก  9 เดือน 16 วัน และ หุ้นกู้รุ่นที่ 2 EA249A วงเงิน 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระในวันที่ 29 ก.ย. 2567 ขอเลื่อนไถ่ถอนเฉพาะเงินต้นออกไปอีก 8 เดือน 1 วัน  โดยเพิ่มอัตราดอกเบี้ยทั้งสองรุ่นเป็น 5% ต่อปี และมีหลักประกันให้เพิ่มเติมโดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด โดยบริษัทฯยืนยันว่าจะชำระดอกเบี้ยที่จะครบกำหนด เพียงขอเลื่อนการไถ่ถอนเฉพาะเงินต้นเท่านั้น

นายวสุ กล่าวเพิ่มเติมว่าการขอเลื่อนการไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้ง 2 รุ่นนี้ ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับชำระเงินคืนเต็มจำนวนภายในไม่เกิน 10 เดือน ซึ่งจะได้รับเงินคืนก่อนสถาบันการเงินและกองทุนของ บลจ. แอสเซท พลัส ที่จะได้รับเงินคืนตามสัญญาเงินกู้ 3 ปี

สำหรับแนวทางที่บริษัทฯจะนำมาชำระหุ้นกู้ทั้ง 2 รุ่นนี้นั้น นอกจากจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯแล้ว บริษัทฯยังอยู่ในระหว่างการเจรจาหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ Strategic Partner(s) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการเงินและเพิ่ม Synergy ระหว่างกัน รวมถึงการนำสินทรัพย์บางส่วนมาจำหน่ายต่อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund)

“บริษัทฯมั่นใจว่า หากดำเนินการทุกอย่างได้ตามแผนงาน ผลประกอบการจะกลับมาเติบโตได้ดีเหมือนเดิม และจะสามารถชำระเงินกู้ รวมทั้งหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดต่อไปในอนาคตได้ทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาให้บริษัทฯในระยะยาว และเป็น win-win solution กับทั้งสถาบันการเงิน ผู้ถือหุ้นกู้ และบริษัทฯ” นายวสุกล่าว