HoonSmart.com>> “BLS Top Funds” ประเมินตลาดหุ้นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น กังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอย ด้านดัชนีหุ้นพุ่งแรงช่วงที่ผ่านมา โอกาสปรับฐานรุนแรง เน้นโหมด Defensive ชูกลุ่ม Healthcare หรือพักเงินลงทุนช่วงตลาดผันผวนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น
บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง โดย BLS Top Funds เปิดเผยมุมมองการลงทุนว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ออกมาชะลอตัวลง ทั้งกิจกรรมภาคการผลิต และตลาดแรงงาน ส่งผลให้ตลาดเผชิญกับภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) เรามองว่าตลาดมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย และการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดมีโอกาสปรับฐานที่รุนแรง
สำหรับมุมมองการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงแรงทั้งสามดัชนีหลัก แนะนำขายทำกำไร B-INNOTECH , MEGA10AI-A,UOBSGC ที่แนะนำไปก่อนหน้า โดยใช้จังหวะที่ดัชนีมีโอกาสเกิด Technical Rebound ในสัปดาห์นี้ หลังปรับตัวลดลงแรงและเร็ว เพื่อลดสัดส่วนการลงทุน และเน้นตั้งรับในสินทรัพย์กลุ่ม Defensive อย่างหุ้นกลุ่ม Healthcare จึงแนะนำกองทุน KFHEALTH-A รวมถึงสามารถพักเงินลงทุนในช่วงที่ตลาดผันผวนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น แนะนำ TCMF และ KKP PLUS
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ยังถูกปกคลุมด้วยความเสี่ยงจากท่าทีของ BOJ ต่อการดำเนินนโยบายทางการเงิน อาจสร้างควมผันผวนต่อตลาดได้ แต่ทั้งนี้ แนวโน้มกำไรของบริษัทฯที่ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่ช่วยลด Downside ลงได้ในระยะข้างหน้า จึงมีมมุมองเป็นกลาง “Neutral” ต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ส่วน “ตลาดหุ้นจีน” ถูกกดดันจากปัจจัยระดับ Global ความกังวลเศรษฐกิจถดถอยและตัวเลขเศรษฐกิจจนที่ยังคงอ่อนแอ มองว่าตลาดยังคงพึ่พิงและคาดหวังมาตรการกระตุ้นจากทางภาครัฐฯเป็นหลัก ทำให้อาจเกิดความเปราะบางและมีความผันผวนได้ง่าย จึงแนะนำขายทำกำไรกองทุน UOBSGC ที่แนะนำก่อนหน้านี้ โดยใช้จังหวะที่ดัชนีมีโอกาสเกิด Technical Rebound ในสัปดาห์นี้ เพื่อลดสัดส่วนการลงทุน
“ตลาดหุ้นอินเดีย” มองระยะสั้นมีโอกาสพักตัว อาจเจอแรงขายทำกำไรหลังความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นและ Sentiment ที่อ่อนแลงของตลาดหุ้นทั่โลก ยังคงแนะนำ Let Profit Run ต่อและทยอยซื้อสะสม เมื่อดัชนีย่อตัวลง เพื่อช่วยลดความตึงตัวของราคา หลังแนวโน้มกำไรและเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง กองทุนแนะนำ ได้แก่ B-BHARATA
ส่วน “ตลาดหุ้นไทย”ยังขาดปัจจัยใหม่ที่ชัดเจน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้ภาพรวม Sentiment ของตลาดยังคงอ่อนแอ มีโอกาสปรับตัวลดลงต่อได้ และยังคงมี Upside ที่ยังไม่ชัดเจน จึงปรับลดมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยลงเป็น “Neutral”
ขณะที่ “ตลาดหุ้นเวียดนาม” ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ถูกกดดันจากปัจจัยระดับ Global เผชิญแรงขายทำกำไร รวมถึงเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลออกหลังค่าเงินดองอ่อนค่า เรายังมีมุมมองบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทฯ ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องมี Valuation ไม่แพง ยังคงแนะนำ Ley Profit Run ต่อและสามารถทยอยซื้อสะสมเพิ่มเติมได้ กองทุนแนะนำ ได้แก่ PINCIPAL VNEQ-A
บล.บัวหลวง ยังคงมีมุมมองบวกต่อ “ตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว” ส่วน “ทองคำ” มีมุมมองเป็น “กลาง” หลังราคาปรับตวเพิ่ขึ้นมาอย่างร้อนแรงในช่วงก่อนหน้า แนะนำลดสัดสส่วนลงทุนและถือลงทุนต่อได้บางส่วนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุนและรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ส่วนมุมมองต่อ “ราคาน้ำมัน” ถูกกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย คาดว่าระยะสั้นราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น หลังปรับตัวลดลงแรงและผลของปัจจัยฤดูกล แต่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอตัวลง สงผลต่อความ้องการใช้น้ำมันในระยะข้างหน้า จึงมองระยะกลางและยาง คงมุมมมองเป็น “กลาง” แนะนำรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ก่อนเข้าลงทุน
สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มีมุมมองเป็น “กลาง” หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ปรับตัวค่อนข้างผันผวน ทำให้ระยะสั้นระหว่างทาง Bond Yieldยังมีโอกาสผันผวนต่อได้ ทำใส่สงผลกดดันต่อหุ้นกลุ่มนี้ แต่ระยะกลางถึงยาวด้วยแนวโน้มดอกเบ้ยที่จบขาขึ้น จะช่วยลดแรงกดดันได้ รวมถึงราคาที่ปรับตวลดลงแรงจากดอกเบี้ยขาขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มนี้ในระยะข้างหน้า