HoonSmart.com>>หุ้น MINT ร่วง 7.78% โดนหั่นเป้าลงมาเหลือ 34 บาท จากเดิม 40 บาท ปรับกำไรสุทธิปี 68 ลง -5% หลังกำไรไตรมาส 2/67 ต่ำกว่าคาด จากดอกเบี้ยจ่ายมากกว่าคาด และรับผลกระทบจากเงินกู้สกุลเงินศรีลังกา และบราซิล ที่อ่อนค่าลง ด้านราคาหุ้นร่วงในช่วงที่ผ่านมาจน Valuation ถูกกว่ากลุ่มฯ จึงยังแนะนำ”ซื้อ”
เมื่อเวลา 10.40 น.หุ้น MINT ร่วง 7.78% มาที่ 24.90 บาท ลดลง 2.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 755.20 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 27.25 บาท ขึ้นสูงสุด 27.50 บาท และต่ำสุด 24.70 บาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ปรับราคาเป้าหมายปี 2567 ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ลงมาอยู่ที่ 34 บาท จากเดิมที่ 40 บาท จากการปรับกำไรลง โดย MINT ประกาศกำไรปกติไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 3.23 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +8% YoY และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ขาดทุนปกติที่ -352 ล้านบาท เพราะเป็นช่วง Peak season ของยุโรป แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด -5% และเราคาด -9% เพราะมีดอกเบี้ยจ่ายมากกว่าคาด และมีกำไรขาดทุนอื่นน้อยกว่าคาด เพราะได้รับผลกระทบจากเงินกู้สกุลเงินศรีลังกา และบราซิล ที่มีการอ่อนค่าลง
โดย 1) ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวตามคาด มี RevPAR เพิ่มขึ้น +14% YoY และ +42% QoQ จากยุโรปเป็นหลัก ส่วน 2) ธุรกิจอาหารมี SSSG โดยรวมลดลง -3% YoY จาก 1Q24 ที่ +3% YoY โดยไทยยังโตได้ต่อเนื่อง ขณะที่ออสเตรเลียและจีนยังคงลดลง ส่วนดอกเบี้ยจ่ายยังเพิ่มขึ้น +6% YoY และ +8% QoQ ตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 7.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +6% YoY จากการฟื้นตัวในทุกประเทศ โดยเฉพาะที่ไทยและยุโรป ขณะที่ปรับกำไรสุทธิปี 2568 ลง -5% จากการปรับดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +10% YoY
ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -8% และ -10% ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET จากกำไรที่ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ไตรมาส 3 ปี 2567 ยังเป็นช่วง High season ที่ยุโรป ด้าน valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2567 PER ที่ 20x เมื่อเทียบกับ ERW ที่ 23x และ CENTEL ที่ 30x ประกอบกับมี 2567 EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 1 0-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”