HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวโน้มหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัว หลังความผันผวนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นเช้านี้เริ่มลดลง แนะ 10 หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง, ดิจิทัล วอลเล็ต, พักเงินบางส่วนกลุ่มปลอดภัย หุ้นแนะนำวันนี้ PLANB-BDMS
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,270 จุด แนวต้าน 1,285 – 1,290 จุดซึ่งคาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว หลังความผันผวนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นเช้านี้เริ่มลดลง แนะนำซื้อ GULF,GPSC,BGRIM,MTC,DIF,3BBIF ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง ขณะที่หุ้น CPALL,CPAXT ได้ปัจจัยบวกจากดิจิทัล วอลเล็ต, พักเงินบางส่วนกลุ่มปลอดภัย เช่น BH,BDMS
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA -2.60%, S&P500 -3.0%, Nasdaq -3.43% จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรชะลอตัว, อัตราว่างงานสูงขึ้นนับตั้งแต่ ต.ค. ส่งผลให้ Goldman Sachs ชี้มีโอกาส 25% แล เดิม 15% คาดเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย โดย CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 86% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 17 – 18 ก.ย. ส่วนความเห็นของเจ้าหน้าเฟดสาขาชิคาโก นายกูลสบี เผยเฟดมีมาตรการรับมือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และเฟดไม่ควรใช้มาตรการการเงินตึงตัวมากเกินไป
ขณะที่ ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐ ก.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 51.4 และ มิ.ย. 48.8 ช่วยลดความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ระดับหนึ่ง ค่ำวันนี้ติดตามรายงานส่งออก – นำเข้าสหรัฐ มิ.ย. และ เฟดแอตแลนต้ารายงาน GDPNow สหรัฐ Q3/67 คาด 2.5% QoQ
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 3.84%
เช้านี้ดัชนีนิเกอิเริ่มฟื้นตัว +9.6% และค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ 145.3 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ จากวานนี้นิเกอิ -12.4% เป็นผลหลัง BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.15% อยู่ที่ 0.25% และเตรียมลดการซื้อพันธบัตรญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสัญญาณยุติมาตรการผ่อนคลายการเงิน ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าสุดวานนี้ที่ระดับ 141.68 เยน/ดอลลาร์ และต้องเร่งปิดสถานะ Yen Carry Trade ซึ่งมีผลให้ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นและทั่วโลกผันผวนสูงผิดปกติ
ปัจจัยในประเทศอยู่ระหว่างรอรายงานกำไร บจ. Q2/67 ซึ่ง BB.Consensus คาดกำไร +Single Digit QoQ และ +30% YoY จากฐานต่ำปีก่อน , CPI ไทย ก.ค.คาด 0.7% และมิ.ย. 0.62% YoYและรอฟังคำวินิจฉัยศาล รธน. กรณียุบพรรคก้าวไกลในวันพรุ่งนี้
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PLANB* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.40 บาท) คาดการณ์กำไร 2Q67 เติบโตขึ้นทั้ง QoQ, YoY หนุนจากรายได้ธุรกิจสื่อนอกบ้าน (OOH) ที่ฟื้นตัวหลังผ่านช่วง Low Season ส่งผลให้ utilization rate ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (engagement marketing) จากกีฬามวยที่ได้รับความนิยมจากต่างชาติ รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากการบริหารสิทธิกีฬา Olympic 2024
สำหรับแนวโน้ม 2H67 คาดกำไรเติบโตได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะใน 4Q67 ที่เป็นฤดูการจับจ่ายใช้สอย ฤดูท่องเที่ยว ส่วนใน 3Q67 ยังมีการบันทึกรายได้จาก Olympic อีกก้อนราว 300 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดประเมินกำไรในปี 67-68 อยู่ที่ 1.09 พันล้านบาท +10%YoY และ 1.25 พันล้านบาท +15%YoY
หุ้น BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท) ประเมินกำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 3,464 ล้านบาท (+13.09%YoY, -14.96% QoQ ) ลดลง QoQ ตามฤดูกาล(ฤดูร้อน-ผู้ป่วยไทย) ส่วน YoY ยังโตได้ดีทั้งจากผู้ป่วยต่างชาติ และ Capacity ที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ภาพรวมทั้งปี67 มีปัจจัยขับเคลื่อน จาก 1.จำนวนเตียงที่สูงขึ้นราว 200 เตียง(ร.พ.พญาไทยศรีราชา/ ร.พ.เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล) 2.การปรับเพิ่มโควตาประกันสังคมขึ้นเป็น 1.5 ล้านราย จากเดิม 1 ล้านราย 3.กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติในตลาดใหม่อย่างซาอุฯ/ มาตรการฟรีวีซาจีน โดย ปัจจุบัน เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ที่ 15,824 ล้านบาท ( +10.08%YoY)