หุ้นเช้านี้ร่วง 10.24 จุด กลุ่มแบงก์นำดิ่ง วิตกผลกระทบจาก EA

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ร่วง 10.24 จุด กลุ่มแบงก์นำดิ่ง วิตกผลกระทบจาก EA หลังก.ล.ต.แจ้งเอาผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ 3 ผู้บริหารของ EA และถูกถอดออกจาก Thai ESG บล.บัวหลวงประเมินกรณีเลวร้าย สินเชื่อ EA ไหลตกชั้นเป็น Stage 3 หรือ NPLs แบงก์จะต้องตั้งสำรองฯเพิ่ม ประเมินกำไรปี 67 ของกลุ่มแบงก์อาจได้รับผลกระทบดังนี้ KTB 7.2% BBL 6.8% SCB 5.1% และ KBANK 4.1%

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 15 ก.ค. 2567 ณ เวลา 10.01 น.อยู่ที่ระดับ 1,321.80 จุด ลดลง 10.24 จุด หรือ -0.77% มูลค่าซื้อขาย 3,264.67 ล้านบาท

บล.โกลเบล็ก ประเมินดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน จากหุ้นกลุ่ม EA ที่ก.ล.ต.แจ้งเอาผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ 3 ผู้บริหารของ EA และถูกถอดออกจาก Thai ESG กรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,320-1,340 จุด

บล.บัวหลวง ประเมิน ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ของไทย คือ BBL KBANK KTB และ SCB น่าจะเป็นเจ้าหนี้หลักของ EA ทั้งนี้ ประเมินว่าสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยให้ EA น่าจะมีหลักประกันบางส่วนเป็นสินเชื่อ Project Finance โดยประเมินหากธนาคารพาณิชย์ใหญ่ปล่อยสินเชื่อให้ EA ทุก ๆ 5 พันล้านบาท และในกรณีเลวร้าย หากสินเชื่อของ EA ไหลตกชั้นเป็น Stage 3 หรือ NPLs จะทำให้ธนาคารที่คาดว่าเป็นเจ้าหนี้ของ EA ต้องตั้งสำรองหนี้ฯ สูงขึ้นเป็น Stage 3 หรือ NPLs จากปัจจุบันที่คาดว่าอยู่ใน Stage 1 โดยคาดจะกระทบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2567 เรียงผลกระทบได้ดังนี้ KTB 7.2% BBL 6.8% SCB 5.1% และ KBANK 4.1%

ทั้งนี้ มองว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ของ EA บ้าง และเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร จึงประเมินธนาคารส่วนใหญ่มีสำรองส่วนเกิน (Management overlay) เพื่อรองรับความเสี่ยงไว้บ้างแล้ว และประเมิน EA จะดำเนินธุรกิจหลักได้ ทำให้ประเมินว่าธนาคารน่าจะบริหารจัดการความเสี่ยงดังกล่าวได้

นอกจากนี้ สิ้นไตรมาส 1/67 EA มีหุ้นกู้ทั้งสิ้น 3.1 หมื่นล้านบาท โดยมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีนี้ 5.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 ส.ค. นี้ 1.5 พันล้านบาท และ 29 ก.ย.2567 อีก 4 พันล้านบาท ปัจจุบัน EA อยู่ระหว่างเสนอขายหุ้นกู้อีกด้วย ทำให้มีความเสี่ยงที่จะขายหุ้นกู้ได้ไม่ครนบตามเป้าหมาย โดย สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 EA มีเงินสด 2.2 พันล้านบาท และมี CFO 1.9 พันล้านบาท

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
SCB อยู่ที่ 103.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -3.29% มูลค่าซื้อขาย 554.06 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 133.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.85% มูลค่าซื้อขาย 505.42 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 32.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.76% มูลค่าซื้อขาย 143.36 ล้านบาท
TISCO อยู่ที่ 95.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.26% มูลค่าซื้อขาย 107.14 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 126.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.17% มูลค่าซื้อขาย 87.11 ล้านบาท