HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 31 จุด ส่วน ดัชนี S&P500 ควง Nasdaq ปิดนิวไฮ นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ,จับตาการแถลงต่อรัฐสภาของประธานเฟด, ผลประกอบการของสถาบันการเงินรายใหญ่และบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ปิดที่ 39,344.79 จุด ลดลง 31.08 จุด หรือ -0.08%, ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเพื่อประเมินเส้นทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และจับตาการแถลงต่อรัฐสภาของประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ รวมทั้งผลประกอบการของสถาบันการเงินรายใหญ่และบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,572.85 จุด เพิ่มขึ้น 5.66 จุด +0.10%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,403.74 จุด เพิ่มขึ้น 50.98 จุด, +0.28%
นอกจากนี้ ดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นขนาดเล็กก็ปรับขึ้นมากกว่า ทั้ง S&P 500 และ Nasdaq Composite ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในปี 2024 โดยเพิ่มขึ้น 12.50 จุด หรือ 0.6% มาที่ 2,039 จุดระหว่างการซื้อขายล่าสุด ก่อนจะปิดที่ 2,038.67
สหรัฐกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)เดือนมิถุนายนในวันพฤหัสบดีนี้ (11 ก.ค.) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันศุกร์ (12 ก.ค.)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 และ 30 ปีปรับตัวลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ในวันจันทร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 4.267% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีลดลง มาที่ 4.457% ซึ่งเป็นระดับปิดที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน และ 27 มิถุนายน ตามลำดับ จากข้อมูล Dow Jones Market Data
เทรดเดอร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ประกาศในวันพฤหัสบดีและในเดือนต่อๆ ไปจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนได้ โดยคาดว่าอัตรา CPI ทั่วไปในรอบ 12 เดือนของเดือนมิถุนายนคาดว่าจะเข้าใกล้ 3.1% ซึ่งเป็นระดับที่นักเศรษฐศาสตร์คาด ตามข้อมูลของ Bloomberg
เทรดเดอร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมจะอยู่ที่ประมาณ 3% และ 2.8% ตามลำดับ
ทิม แม็กนัสสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Garda Capital Partners กล่าวว่า หากเป็นตามที่คาดเช่นนั้น คณะกรรมการ FOMC ก็จะมีพื้นที่เหลือเฟือที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ขณะนี้ 3 ใน 4 ของนักลงทุนให้น้ำหนักว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน
นักลงทุนยังจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทเป๊ปซี่โค และเดลต้า แอร์ไลน์ จะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดีนี้ และธนาคารใหญ่ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์
ตลาดยุโรปปิดลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนเริ่มประเมินโอกาสที่รัฐสภาฝรั่งเศสจะไม่มีฝ่ายใดได้เสียงข้างมาก หลังจากพรรคพันธมิตรฝ่ายซ้ายมีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในการเลือกตั้ง
กลุ่มน้ำมันและก๊าซเป็นตัวฉุดลงมากที่สุด โดยลดลง 1.1% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบลดลง
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลงจากที่บวกในช่วงแรก หลังพรรคขวาจัดไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากในฝรั่งเศส หลังจากที่พรรคฝ่ายซ้ายมีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ธนาคารใหญ่สุดของฝรั่งเศสลดลงลง 1.7% และหุ้นโซซิเอเต้ เจเนราล ลดลง 1.2%
ข้อมูลจากเยอรมนีแสดงให้เห็นว่าการส่งออกลดลงเกินคาดในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากความต้องการที่อ่อนแอจากจีน สหรัฐฯ และประเทศในยุโรป
ความสนใจของตลาดจะอยู่ที่ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และเยอรมันที่กำหนดรายงานในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะกำหนดทิศทางของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 516.43 จุด ลดลง 0.17 จุด -0.03%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,193.49 จุด ลดลง 10.44 จุด, -0.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,627.45 จุด ลดลง 48.17 จุด -0.63%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,472.05 จุด ลดลง 3.40 จุด, -0.02%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 83 เซนต์ หรือ 1.0% ปิดที่ 82.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 79 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 85.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล