HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีหุ้นได้แรงหนุนเม็ดเงินใหม่จากกองทุน TESG โอกาสเกิด Window Dressing แนวต้านดัชนี 1,325 – 1,330 จุด แนะทยอยซื้อหุ้น 7 หุ้นใน SETESG แนวโน้มกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี, เก็งกำไร GULF รับข่าวร่วม Google Asia Pacific ให้บริการระบบคลาวด์ พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น MINT, TACC
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,305 – 1,310 จุด แนวต้าน 1,325 – 1,330 จุด ประเมินดัชนีได้แรงหนุนเม็ดเงินใหม่จากกองทุน TESG และโอกาสเกิด Window Dressing แนะนำทยอยซื้อ CPALL,BJC,CRC,CPF,ICHI,AOT,MINT เป็นกลุ่มอยู่ใน SETESG และแนวโน้มกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี , เก็งกำไร GULF จากประเด็นข่าวร่วมกับ Google Asia Pacific ให้บริการระบบคลาวด์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500 +0.39%, Nasdaq +1.26% ได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้ชิป Nvidia +6.8% ขณะที่ DJIA ปรับลดลง -0.76% จากแรงขายกลุ่มค้าปลีก, ขนส่ง โดยนักลงทุนซื้อขายปรับพอร์ตระหว่างกลุ่ม Value กับ Growth
ส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศสหรัฐ เม.ย. +6.3% และ มี.ค. +6.5% YoY และ Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 100.4 และ พ.ค. 101.3
สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตาม US GDP Q1/67 ครั้งที่ 3 คาด +1.5% และ ครั้งที่ 2 +1.3% QoQ และวันศุกร์ US Core PCE พ.ค. คาด 2.6% และเม.ย. 2.8% YoY เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยของเฟด โดยวานนี้ มิเชล โบว์แมน คณะกรรมการเฟดเผยยังไม่ถึงเวลาลดดอกเบี้ย และยังเปิดช่องสำหรับการขึ้นดอกเบี้ย จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ระดับสูง
หุ้นแนะนำ ได้แก่ MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 40.50 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q67-3Q67 จะมีกำไรปกติดีขึ้น จากการเข้าสู่ high season ที่ยุโรป (สัดส่วน 50% ของรายได้รวม) เป็นตัวหนุน RevPar จากค่าเฉลี่ยห้องพักและอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยมีโมเมนตัมบวกต่อจากการแข่งขันฟุตบอลยุโรป และการแข่งขันโอลิมปิก บริษัทมีแผนการชำระหนี้ที่อยู่ในระดับสูงลง และได้ประโยชน์จากการที่ ECB เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย (โครงสร้างหนี้ 60% อยู่ในสกุลยูโร)
ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรในปี 67 ที่ 8.2 พันล้านบาท +49%YoY และปี 68 ที่ 9.4 พันล้านบาท +15%YoY
หุ้น TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.55 บาท) กำไรสุทธิ 1Q67 +YoY +QoQ หนุนจากสภาพอากาศร้อนเป็นบวกต่อสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม, การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ, และการขายในกัมพูชาตาม 7-11
ด้านการดำเนินงาน 2Q67 แม้อาจมีปัจจัยลบจากแนวโน้มราคากาแฟ(ต้นทุน)ที่สูงขึ้น แต่ เบื้องต้นคาดว่า ภาพรวมจะเป็นบวกได้ต่อจาก 1.แรงหนุนเชิงรายได้ตามสภาพอากาศร้อนจัดในเดือน เม.ย.-พ.ค.67 2.การออกสินค้าใหม่ๆเพื่อชดเชยมาร์จิ้น เช่น เจลี่ คอลลาเจน เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี 67 และ68 กำไรสุทธิของ TACC* จะอยู่ที่ระดับ 243 ล้านบาท(+17.61%YoY) และ 270 ล้านบาท (+10.97%YoY)