HoonSmart.com>>คลังจับมือก.ล.ต.-ตลาด แถลงมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน เพิ่มเม็ดเงินซื้อหุ้นระยะยาว “พิชัย” ปัดฝุ่นตั้งกองทุนวายุภักษ์-คลังชงครม.ปรับเงื่อนไขกอง ThaiESG เพิ่มวงเงินจาก 1 แสนบาทเป็นไม่เกิน 3 แสนบาท ลดเวลาจาก 8 ปี เหลือ 5 ปี คาดมีเม็ดเงินลงทุนใหม่ 3 หมื่นล้าน รมว.คลังยันไม่ยกเลิกชอร์ตเซล “ภากร”เผยศึกษาร่วมกับสมาคมบล.ดูแลนักลงทุนได้วงเงินซื้อขายเท่าไร เพื่อไม่ให้มากจนเกินไป เลขาก.ล.ต.กางตารางเวลายกระดับความเชื่อมั่น
วันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา 3 หน่วยงานร่วมแถลงมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน โดยกระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อปรับเงื่อนไขกองทุนภาษี ThaiESG ขยายวงเงินการนำเงินลงทุนไปขอลดหย่อนภาษีเงินได้ จากเดิมสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท และปรับลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ จากเดิม 8 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการสงเสริมให้เกิดการออม ผ่านการลงทุนในตลาดทุน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ระดมทุนให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
นายพิชัย ชุนหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า ภาครัฐยังศึกษาความสำเร็จของกองทุนรูปแบบอื่น อาทิ กองทุนวายุภักษ์ ที่ประสบความสำเร้จในอดีต เสริมสร้างกลไก การออม การลงทุนให้กับประชาชนผ่านรูปแบบการลงทุนร่วมของภาครัฐ เป็นกองทุนเปิดจดทะเบียนใน SET แยกเป็นหน่วย ก. สำหรับผู้ลงทุน ส่วน หน่วยข. สำหรับคลังและหน่วยงานอื่น ทั้งนี้หน่วยก. ได้รับผลตอบแทนตามจริง โดยมีขั้นต่ำ-ขั้นสูงต่อปี เป็นเวลา 10 ปี ได้รับชำระคืนเงินลงทุนก่อนผู้ถือหน่วย ข. นอกจากจะมีการขับเคลื่อนและผลักดันการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในลักษณะอื่น ๆ เช่น การจัดกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นเทรนด์ในอนาคต และการพัฒนา Exchange-Traded Fund (ETF) รวมทั้งบัญชีส่วนบุคคลเพื่อการลงทุนระยะยาว ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เป็นต้น
“เรากำลังดูว่ารูปแบบจะเป็นอย่างไรที่ดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น เริ่มทำการบ้าน ดูกฎหมายว่าจะต้องทำเพิ่มอีกเท่าไร หรือทำได้เลย ไม่เกินเดือนครึ่งก็คงออกมา” นายพิชัยกล่าว
นอกจากจะส่งเสริมเม็ดเงินที่จะเข้ามาสู่ตลาดทุนแล้ว จะต้องมีมาตรการยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุน ซึ่งจะเชื่อมั่นได้ไหม เพราะยังมีชอร์ตเซล มีโรบอตเทรด ซึ่งก.ล.ต.จะมีการกำกับร่วมกับตลาดหลักทรัพย์อย่างไร
ส่วนข้อเสนอให้ยกเลิกการชอร์ตเซล เหมือนตลาดหุ้นต่างประเทศบางแห่ง เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนนั้น นายพิชัยกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยและจะเกิดผลเสียระยะยาว เพราะขัดกับหลักสากล นักลงทุนต่างชาติจำเป็นต้องใช้ ส่วนเน็กเก็ตชอร์ต ตลาดดูแลอยู่ ให้นักลงทุนมาขึ้นทะเบียนและเซ็นสัญญา หากทำผิดจะต้องถูกลงโทษ ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาวต้องรอแก้กฎหมาย
“ใครจะมาเล่นหุ้นในเมืองไทยจะต้องลงทะเบียน ใช้เครื่องมือและกฎหมายที่นี่ เพราะกฎหมายไทยห้ามเน็กเก็ตชอร์ต จะให้คนไม่กล้าทำผิด”
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า กองทุน ThaiESG ที่เปิดขายเมื่อปลายปีที่แล้วเพียง 1 เดือน สามารถระดมเม็ดเงินได้ประมาณ 6,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้หลังปรับเงื่อนไขใหม่ จะมีเวลาเปิดขายหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 เดือน เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินที่เข้ามาสู่ตลาดทุนมากขึ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มมีผลย้อนหลังในการลดหย่อนภาษีตั้งแต่เดือนม.ค.2567
นอกจากนี้การลงทุนยังได้เพิ่มประเภทบริษัทจดทะเบียนที่มีเรื่องธรรมาภิบาล (Governance) ที่ดีเข้ามาให้กองทุนสามารถลงทุนได้ จากเดิมที่เน้นเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม จะช่วยเพิ่มตัวเลือกของหุ้นที่สามารถลงทุนได้ในกองทุน ThaiESG อีกราว 200 ตัว จากเดิมที่มี 128 ตัว
ส่วนการยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุน มีการออกมาตรการมาอย่างต่อเนื่องตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ ทั้งก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์จะติดตามผลของการดำเนินการและมีการทบทวนมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้มั่นใจว่า พฤติกรรมการกระทำผิดในลักษณะที่เข้าข่ายการกระทำอันไม่เป็นธรรม เมื่อเกิดขึ้นจะมีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และระดับความรุนแรงของความผิดจะสูงขึ้น รวมทั้งการกำหนดปรับปรุงค่าปรับจากการกระทำผิดที่สูงขึ้นและการปรับแก้กฎหมายให้เข้มข้นขึ้น เพื่อป้องปรามการกระทำที่ไม่เหมาะสม
” ถ้ายายังไม่แรงพอ ก็พร้อมที่จะหยอดยาเพิ่มขึ้น แม้ไม่มั่นใจว่าจะหาย แต่จะดีขึ้น”เลขาธิการก.ล.ต.กล่าว
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า บจ.เกินครึ่งรายงานกำไรสุทธิกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เพราะบางกลุ่มฟื้นตัวแล้ว เช่น ส่งออก การแพทย์ แต่ยังมีบางกลุ่มยังไม่ฟื้นตัว พลังงาน การเงิน ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่เทียบกับตลาด มีผลต่อดัชนี นอกจากนี้ระดับ P/E ค่อนข้างต่ำกว่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา เกือบทุกอุตสาหกรรม จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่นักลงทุนควรมองการกลับเข้ามาลงทุน และนักลงทุนต่างชาติขายน้อยลง
ส่วนการปรับเงื่อนไขของกองทุน ThaiESG จะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุน แต่จะต้องเดินหน้ามาตรการยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุน ขับเคลื่อน ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาที่ท้าทาย ทั้งจากการขายชอร์ตและโปรแกรมเทรดที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ก.ล.ต. ร่วมกับ ตลท.และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) ผลักดันมาตรการต่าง ๆ และเร่งรัดให้เกิดการดำเนินการที่คำนึงถึงผลกระทบในหลายด้านอย่างรอบคอบ และชัดเจน ส่วนใหญ่จะดำเนินการได้ต้นเดือน ก.ค.67
นอกจากนั้นยังจะมีมาตรการต่าง ๆ ตามออกมาอย่างต่อเนื่องตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ เดินหน้าเพิ่มมาตรการควบคุมการซื้อขายต่างๆที่ทยอยออกมา เพื่อลดความผันผวน และช่วยปกป้องนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย และช่วยสร้าง sentiment บวก ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น และกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้อยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับสมาคมบล. ดูแลว่า นักลงทุนได้วงเงินในการซื้อขายเท่าไร เพื่อไม้่ให้วงเงินมากจนเกินไป
ด้านตลาดหุ้นวันที่ 25 มิ.ย.67 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,316.73 จุด เพิ่มขึ้น 10.32 จุด หรือ +0.79% มูลค่าซื้อขาย 38,354.24 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศยังขายต่อเนื่อง 1,087.97 ล้านบาท ด้านสถาบันไทยซื้อสุทธิ 495.97 ล้านบาท นักลงทุนไทยซื้อต่อ 305.93 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้น รอลุ้นการแถลงของคลัง, ตลาดหลักทรัพย์ และก.ล.ต. ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ส่วนพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.)จะมีการแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น, กลาง และยาว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทรงตัว ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ปรับตัวขึ้น โดยให้ติดตามวันศุกร์นี้ (28 มิ.ย.) ตัวเลข Core PCE ของสหรัฐฯ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) ตลาดคงจะแกว่ง Sideway up โดยมีแนวรับ 1,300-1,305 จุด แนวต้าน 1,320 จุด