HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 69 จุด นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังรอรายงาน CPI จับตาประชุมเฟด ด้านดัชนี S&P 500 ควง Nasdaq ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แรงหนุนจากหุ้นเทค “ราคาน้ำมันดิบ” เพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 10 มิถุนายน 2567 ปิดที่ 38,868.04 จุด เพิ่มขึ้น 69.05 จุด หรือ +0.18% แม้นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนรายงานราคาผู้บริโภคในสัปดาห์นี้และการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
S&P 500 และ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการปรับขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี ที่นำโดยหุ้น Nvidia
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,360.79 จุด เพิ่มขึ้น 13.80 จุด, +0.26%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,192.53 จุด เพิ่มขึ้น 59.40 จุด, +0.35%
หุ้น Nvidia บวกราว 0.8% หลังการแตกพาร์ในอัตราส่วน 10 ต่อ 1 มีผลและนักลงทุนคาดว่าหุ้นจะเข้าไปอยู่ในดัชนีดาวโจนส์ซึ่งประกอบด้วยหุ้นบลูชิป
หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์บวกเกือบ 2% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.5% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 2.3%
นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค( CPI) ในวันพุธนี้ (12 มิ.ย.) ซึ่งจะเป็นการทดสอบตลาดหลังข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งในสัปดาห์ก่อนบ่งชี้ว่าเฟดสามารถชะลอการลอัตราดอกเบี้ยได้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน
นักลงทุนยังเกาะติดผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่จะออกมาในวันเดียวกัน แม้คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่รอการเปิดเผยการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจและการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นโยบายการเงิน ที่เพื่อประเมินช่วงเวลาและจำนวนครั้งของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 50% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
หุ้นแอปเปิ้ล ลดลง 1.9% หลังเริ่มการประชุมประจำปีนักพัฒนาด้านเทคโนโลยี นักลงทุนคาดหวังที่จะเห็นแอปเปิ้ลอัปเดตการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการบริการของบริษัท
ตลาดยุโรปปิดลบ นำโดยหุ้นฝรั่งเศส หลังจากประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่หลังจากพรรคพันธมิตรพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป
ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสร่วงลง 1.4% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยหุ้นธนาคาร ทั้ง บีเอ็นพีบาริบาส์( BNP Paribas) โซซิเอเต้ เจนเนอรัล( Societe Generale) และ เครดิต อกริโกล(Credit Agricole) ลดลงระหว่าง 3.6% ถึง 7.5%
ราคาพันธบัตรฝรั่งเศสก็ปรับลดลงเช่นกัน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 เดือน หลังจากที่กลุ่มชาตินิยมที่มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปคว้าชัยในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การตัดสินใจโดยไม่คาดคิดของนายมาครงในการจัดการเลือกตั้งใหม่อาจส่งต่ออำนาจทางการเมืองครั้งใหญ่ให้กับฝ่ายขวาจัด และทำให้พรรค National Rally (RN) ของ นางมารีน เลอ แปน เข้ามารับผิดชอบการบริหารประเทศ ซึ่งรวมถึงนโยบายเศรษฐกิจด้วย
ผลการเลือกตั้งในยุโรปเพิ่มความเป็นไปได้ที่ RN จะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภาฝรั่งเศส นักเศรษฐศาสตร์จาก HSBC กล่าว
หุ้น Eiffage และ Vinci ของฝรั่งเศสลดลงกว่า 5% ขณะที่หุ้น Aeroports de Paris และหุ้น Engie ร่วง 4.1% และ 3.2% ตามลำดับ
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 522.16 จุด ลดลง 1.39 จุด, -0.27%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,228.48 จุด ลดลง 16.89 จุด, -0.20%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,893.98 จุด ลดลง 107.82 จุด, -1.35%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,494.89 จุด ลดลง 62.38 จุด, -0.34%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ 2.93% ปิดที่ 77.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2.01 ดอลลาร์ หรือ 2.52% ปิดที่ 81.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
—————————————————————————————————————————————————-