บลจ.อีสท์สปริง พาคนไทยเกษียณสุข “Eastspring M Choice TH” แอปเดียวจบ

HoonSmart.com>> “การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ของประเทศไทยและในอีก 8 ปี ข้างหน้าประชากรที่มีอายุเกิน 65 ปี จะมีมากถึง 20% ในขณะที่ตัวเลขเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณมีสัดส่วนเพียง 54.3% ของจำนวนผู้สูงอายุโดยมูลค่าการออมของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต่ำกว่า 50,000 บาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 41.4% จึงอาจมีเงินไม่พอดำรงชีพหลังเกษียณ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund หรือ PVD)” เป็นอีกหนึ่งช่องทางช่วยให้คนไทยมีเงินใช้หลังเกษียณ”

กรองจันทร์ สกุลยง

“กรองจันทร์ สกุลยง” Director of Institution, Provident Fund, Private Fund and High Net Worth บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด (บลจ.อีสท์สปริง) ให้สัมภาษณ์พิเศษ “HoonSmart” ถึงสถานการณ์เงินออมหลังเกษียณของคนไทยว่า จากข้อมูลผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีเงินพึ่งพายามเกษียณเพียง 40% นั่นหมายความว่าในจำนวนผู้สูงอายุ 100 คน มีเงินไว้ใช้ยามเกษียณแค่ 40 คน และมีมูลค่าเงินออมของผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่น้อยกว่า 50,000 บาท ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับการดำรงชีพ อีกทั้งยังพบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ 32.4% มีรายได้หลักมาจากการทำงาน และ 32.20% มีรายได้จากบุตร อีก 19.20% มาจากเบี้ยยังชีพ 7.50% มาจากเงินบำเหน็จ/บำนาญ 4.5% มาจากคู่สมรส

ในขณะที่มีเพียง 1.5% ที่มีรายได้จากเงินออมเท่านั้น และที่เหลือมาจากอื่น ๆ อีก 2.7% * ( * ที่มา: ตลท.เปิดสถานะการเงินคนไทยวัยเกษียณเปราะบาง ส่งแคมเปญใหม่เสริมทักษะการเงิน สะสมไว้ใช้ในสังคมสูงวัย ณ วันที่ 28 เม.ย.2566, https://thaipublica.org/2023/04/set-launching-new-financial-literacy-program-for-elderly-person/)

พันธกิจสร้าง Wealth & Health สังคมไทย

“บลจ.อีสท์สปริง” เดินหน้าพันธกิจสร้าง Wealth & Health เพื่อสังคมไทย เตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นอกเหนือจากการลงทุนผ่าน “กองทุนรวม” ที่มีส่วนสำคัญช่วยวางแผนเพื่อการเกษียณเพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้แล้ว การลงทุนและการออมผ่าน “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” ก็เป็นหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้คนไทยบรรลุเป้าหมายมีเงินใช้หลังเกษียณ
ทว่า ภาพรวมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปัจจุบัน มีจำนวนบริษัทที่จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพียง 2 หมื่นกว่าบริษัท จากจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์กว่า 8 แสนบริษัท จึงมองความจำเป็นที่ภาคเอกชนควร “จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณ การหักเงินสะสมของลูกจ้างทุกๆ เดือน เมื่อรวมกับฝั่งนายจ้างสมทบให้ผ่านกองทุน PVD ก็คือ การออมก่อนใช้ นั่นเอง สอดคล้องกับการให้ความรู้ด้านการออมที่แนะนำให้มีการออม 10% ของเงินเดือน

ขณะเดียวกัน “นโยบายการลงทุน” ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในภาพรวม มุ่งขับเคลื่อนให้ได้มากกว่า 80:20 จากเงินส่วนใหญ่ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ในสินทรัพย์ต่ำ เช่น ตราสารหนี้ประมาณ 80% ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงสูง เช่น หุ้นมีสัดส่วนเพียง 20% ทำให้ผลตอบแทนค่อนข้างน้อย หากลูกจ้างมีความเข้าใจในการลงทุน และขยับการลงทุนออกจากตราสารหนี้ ให้มีสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น มีเงินเพียงพอยามเกษียณ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. เองอยู่ระหว่างปรับปรุง พ.ร.บ. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้น

ออมผ่าน PVD ไว้ใช้หลังเกษียณ ไม่ต้องรอภาคบังคับ

สำหรับความคืบหน้าของกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ หรือ กบช. ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการออมภาคบังคับที่จะมาแก้ไขปัญหาอนาคตของคนไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยนั้น ยังต้องรอออกมาบังคับใช้ ดังนั้นภาคเอกชนก็สามารถจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นกองทุนภาคสมัครใจไปก่อนได้ เพราะในที่สุดเมื่อ กบช.ออกมา บริษัทที่ยังไม่มีกองทุน PVD ก็จะต้องเข้าสู่การออมภาคบังคับ โดยปัจจุบันกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีอัตราเงินสะสมของลูกจ้างและนายจ้างสมทบอยู่ที่ 2-15% ของค่าจ้าง

“จุดต่างของกบช.กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเงินออมที่อยู่ใน กบช. ลูกจ้างจะต้องลงทุนจนถึงอายุครบ 60 ปีจึงจะนำเงินออกไปได้ อีกทั้งการออมผ่านกบช. จะมีคณะกรรมการเหมือนกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ดูแลเรื่องของนโยบายการลงทุนให้ ต่างจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่สมาชิกหรือลูกจ้างสามารถเลือกนโยบายการลงทุนได้เองตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้และปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนได้ด้วยตัวเอง” กรองจันทร์ กล่าว

ในช่วงที่กบช.ยังไม่มีผลบังคับใช้ บริษัทเอกชนสามารถเลือกจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ โดยสมาชิกขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 2 ท่านขึ้นไป โดยขั้นตอนการดำเนินการไม่ได้ยุ่งยากใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก็แล้วเสร็จ

ลูกค้าไว้วางใจหนุน PVD “บลจ.อีสท์สปริง” เติบโตต่อเนื่อง

“กรองจันทร์” กล่าวว่า สำหรับบลจ.อีสท์สปริง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง มีบริษัทเอกชนมาจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเกือบ 200 บริษัทต่อปี และปัจจุบันมีจำนวนบริษัทนายจ้างที่จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับบลจ.อีสท์สปริงกว่า 1,900 บริษัท โดยซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคเอกชน และมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหารจัดการ มากกว่า 6 หมื่นล้านบาท (ที่มา: สมาคมบริษัทจัดการกองทุน ณ วันที่ 29 ก.พ.67)

“ช่วงที่ผ่านมาเราเติบโตในหลัก 2-5 พันล้านบาทต่อปี เป็นการเติบโตแบบมั่นคง จากลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ชอบในนโยบายการลงทุนที่เรามีมากถึง 30 นโยบาย น่าจะมากที่สุดในอุตสาหกรรม ครอบคลุมการลงทุนในตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ และสินทรัพย์ทางเลือก กรองจันทร์ กล่าว

แผนงานในปีนี้ บลจ.อีสท์สปริงเตรียมเพิ่มนโยบายการลงทุนอีก 3-4 นโยบาย เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้สมาชิกเพิ่มขึ้น และสำหรับผู้ที่ไม่อยากเลือกลงทุนเอง หรือคนที่ไม่มีเวลา หรือไม่แน่ใจในการเลือกแผนการลงทุนหรือปรับแผน เราก็มีการลงทุนแบบสมดุลตามอายุ หรือ Target Retirement Fund พร้อมบริการที่ตอบโจทย์การจัดพอร์ตสินทรัพย์ตามปีเกษียณ “คนที่อายุน้อยสินทรัพย์เสี่ยงมาก อายุมากสินทรัพย์เสี่ยงน้อย” ซึ่งสินทรัพย์จะถูกปรับสัดส่วนโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ตามช่วงอายุ ของสมาชิกกองทุน

 

 

ชูจุดเด่น “Eastspring M Choice TH” แอปเดียวจบ #เกษียณได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว

ล่าสุดบลจ.อีสท์สปริง ได้เปิดตัว โมบาย แอปพลิเคชัน “Eastspring M Choice TH” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการบริการสำหรับลูกค้ากลุ่มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น และมีฟีเจอร์การทำงานที่เหนือชั้น ซึ่งมีคุณสมบัติหลัก ดังนี้

1.ติดตามยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ได้ทุกวัน โดยระบบจะคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็นรายวัน (Daily NAV)

2.รายการปรับพอร์ตซและสับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ทุกวันทำการซื้อขาย ตามเงื่อนไขที่บลจ.อีสท์สปริงและข้อบังคับกองทุนกำหนด ด้วยราคา ณ วันนั้น โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งและไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้สะดวกรวดเร็วในการปรับเปลี่ยนแผนลงทุน และไม่เสียโอกาสการลงทุน

3.เลือกปรับเปลี่ยนเฉพาะนโยบายการลงทุนที่ต้องการได้ โดยสับเปลี่ยนจากนโยบาย A ไป นโยบาย B ได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องปรับการลงทุนทั้งพอร์ตไปพร้อมๆ กันเพียงอย่างเดียว (Switching Module)

4.กำหนดแผนการปรับสัดส่วนการลงทุนอัตโนมัติ (Auto-rebalance) ตามระยะเวลาที่สมาชิกเลือกกำหนดได้เอง เพื่อให้พอร์ตการลงทุนเป็นไปตามแผนการลงทุนที่ตั้งไว้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเข้าไปปรับสัดส่วนเองเป็นรายครั้ง

รวมทั้งยังมีฟังก์ชันดาวน์โหลดแบบฟอร์มและเอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับนำส่งสรรพากร โดยสมาชิกสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Eastspring M Choice TH ได้ทั้งใน iOS และ Android เพียงค้นหาคำว่า Eastspring M Choice TH ซึ่งรองรับการใช้งานได้ทั้งในรูปแบบสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต

 


 

“นอกเหนือจากจุดเด่นของบลจ.อีสท์สปริงที่มีนโยบายการลงทุนให้เลือกมากที่สุดถึง 30 นโยบายแล้ว ในฟีเจอร์ของแอปที่ในอุตสาหกรรมไม่มี คือ การให้สมาชิกเลือกปรับเปลี่ยนเฉพาะนโยบายการลงทุนที่ต้องการได้ (Switching Module) โดยไม่ต้องปรับทั้งพอร์ต และฟีเจอร์ที่แนะนำอีกตัว คือ โปรแกรมจําลองการลงทุน Retire Rich Workbook เพื่อกําหนดเป้าหมายยามเกษียณได้อีกด้วย”

 


 

นอกจากนี้บลจ.อีสท์สปริง ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัท Eastspring Investments เป็นผู้จัดการสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลกของกลุ่มบริษัท พรูเด็นเชียล ผู้นำด้านการลงทุนเอเชียที่มีมุมมองการลงทุนระดับโลก มีทีมผู้จัดการกองทุนที่มากประสบการณ์ด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ มีความร่วมมือในการบริหารพอร์ตสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลกในลักษณะ Multi Asset Portfolio Solutions ตลอดจนมีระบบภายในช่วยตัดสินใจการลงทุน และนำเทคโนโลยีระดับโลก “ระบบอะลาดิน” (Aladdin) มาช่วยวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงในการบริหารพอร์ต พร้อมเครื่องมือด้านการเทรดทรัพย์สินต่างๆ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลที่ให้ความแม่นยำยิ่งขึ้น

“กรองจันทร์” กล่าวว่า หลังจากเปิดตัว แอปพลิเคชัน “Eastspring M Choice TH” ไป 1 เดือนมีผู้ใช้เข้ามาใช้งานประมาณ 3,000 ราย หากคงระดับนี้ตลอดทั้งปีเท่ากับจะมีผู้ใช้งานประมาณ 36,000 ราย ซึ่งเทียบเท่ากับที่เราเปิดเว็บไซต์แอปพลิเคชั่นมา 10 ปี และมีผู้ใช้งาน 2 หมื่นกว่าคน ซึ่งแอปพลิเคชั่นโฉมใหม่นี้จะตอบโจทย์การลงทุนเพื่อการเกษียณได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงนี้เรามีการพบปะสมาชิกเพื่อสื่อสาร และแนะนำแอปพลิเคชั่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขณะเดียวกันหากสมาชิกต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เรามีศูนย์ที่ปรึกษาการลงทุน Investment Consulting Center โทร. 1725 ให้คำแนะนำและการใช้งาน พร้อมทั้งแนะนำการเลือก, ปรับเปลี่ยนนโยบายหรือแผนการลงทุน ภาษีเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการใช้งานระบบออนไลน์

สำหรับแผนการดำเนินงานขั้นต่อไปในปีนี้ จะเปิดให้บริการฟังก์ชันเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกให้นายจ้างและคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริหารจัดการงานสมาชิกได้ผ่านแอปพลิเคชัน ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ทันที ตลอดเวลา แบบไร้รอยต่อ โดยไม่ต้องมีการนำส่งข้อมูลทางอีเมลระหว่างกัน รวมถึงไม่ต้องนำส่งกระดาษเพื่อเวียนลงนาม ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากร ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับคณะกรรมการกองทุน เป็นประโยชน์กับทั้งองค์กรนายจ้างเองและเป็นการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม

รางวัลการันตี 8 ปีซ้อน

ผลงานการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบลจ.อีสท์สปริง ยังได้รับการพิสูจน์มาแล้วอย่างยาวนาน การันตีฝีมือและความสำเร็จด้วยรางวัลที่ได้รับมาตลอด 8 ปีซ้อน (2558-2566) จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ TMBAM M Choice ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ประเภทกองทุนร่วมทุน Pooled Fund ที่มีขนาดมากกว่า 10,000 ล้านบาท จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและโล่รางวัลจากกระทรวงการคลัง ตอกย้ำศักยภาพและความเป็นเลิศด้านการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในประเทศไทย (ที่มา: สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ Association of Provident Fund)

รางวัลประเภทกองทุนร่วม Pooled Fund ที่มีขนาดมากกว่า 10,000 ล้านบาท ชนะเลิศ 7 ปี (ปี 2558-2563 และ 2566) จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและโล่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 (ปี 2565) จากกระทรวงการคลัง (ที่มา:สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ Association of Provident Fund) ซึ่งรางวัลดังกล่าวตอกย้ำความสำเร็จจากความโดดเด่น 4 ประการ ได้แก่ 1.มีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ 2.สามารถติดตามผลการลงทุนทุกวัน 24 ชม. 7 วันและได้ Daily NAV (มูลค่าหน่วยลงทุนรายวัน) 3.สับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้อัตโนมัติ (Auto Rebalance) และ 4.โปรแกรม Retire Rich Workbook ช่วยคำนวณเงินลงทุนสำหรับวางแผนการเงินอย่างเกษียณสุข

“คิดถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คิดถึงอีสท์สปริง”

“กรองจันทร์” กล่าวทิ้งท้ายว่า บลจ.อีสท์สปริง มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่มีนโยบายการลงทุนให้เลือกมากที่สุดถึง 30 นโยบายครอบคลุมทุกสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ เป็นผู้นำบริหารจัดการกองทุนต่างประเทศ (FIF) ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทย ขณะที่เป็นอันดับ 1 กองทุน FIF ตราสารหนี้ต่างประเทศ และอันดับ 2 กองทุน FIF ตราสารทุนต่างประเทศ (ที่มา: สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ วันที่ 29 ก.พ.67) เราจึงอยากให้คนไทย “เมื่อคิดถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คิดถึงอีสท์สปริง” ซึ่งเชื่อมั่นว่าเมื่อนายจ้างอยากจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บลจ.อีสท์สปริงก็น่าจะมีชื่ออยู่ใน Top 5 และ เป็น “Top of Mind” ด้วยเช่นกัน

ติดต่อเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โทร 1725
ข้อมูลเพิ่มเติม www.eastspring.co.th/eastspring-mchoice

ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

.