HoonSmart.com>> กองทรัสต์ QHHRREIT ปิดดีลแปลงสภาพจาก “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ “เป็น “กองทรัสต์” พร้อมลงทุนเพิ่มทรัพย์สินใหม่ “โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ สีลม” ในไตรมาส 2 นี้ เพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ รับปัจจัยบวกด้านการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัว และมาตรการฟรีวีซ่า ชูศักยภาพเป็นกองทรัสต์โรงแรมที่อยู่ในทำเลศักยภาพสูง
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ QHHRREIT เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการแปลงสภาพจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ (QHHR) เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ (QHHRREIT) เรียบร้อยแล้ว ตอบรับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากมาตรการยกเว้นภาษีและการปรับลดค่าธรรมเนียมจากการแปลงสภาพ โดยภายหลังแปลงสภาพ หน่วยลงทุน “QHHR” จะถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และหน่วยทรัสต์ “QHHRREIT” จะเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแทน โดย เริ่มซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2567
ตอกย้ำจุดเด่นกองทรัสต์ที่มีทรัพย์สินอยู่ในไพร์มโลเคชั่น และมีแผนจะลงทุนในทรัพย์สินใหม่ศักยภาพสูงเพิ่มเติมใน “โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ สีลม ” ต่อภายหลังจากการแปลงสภาพในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ทันที โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมจะมาจากการกู้ยืมเงินทั้งหมด พร้อมรับปัจจัยบวกจากภาพรวมการท่องเที่ยวฟื้นตัว ช่วยเพิ่มความหลากหลายด้านทำเลที่ตั้งทรัพย์สิน ฐานลูกค้าและต่อยอดการเติบโตของกองทรัสต์
ดร.ณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ QHHRREIT กล่าวว่า QHHRREIT ปัจจุบันมีทรัพย์สินในพอร์ตโฟลิโอรวม 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ เพชรบุรี (ประตูน้ำ), โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ สุขุมวิท (สุขุมวิท 10) และ โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ หลังสวน (ชิดลม) โดยจุดเด่นของทรัพย์สิน คือ มีสินทรัพย์โรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเม้นต์ ส่วนใหญ่เป็นกรรมสิทธิ์ (Freehold) ทำให้กองทรัสต์สามารถหาประโยชน์ในทรัพย์สินและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2567 จำนวน 9.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 43.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า และนโยบายฟรีวีซ่ากับบางกลุ่มประเทศ
อีกทั้งมีการปรับปรุงบางส่วนในโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ สุขุมวิท และ เพชรบุรี ซึ่งเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โรงแรมทั้ง 3 แห่ง มีอัตราเข้าเฉลี่ยประมาณร้อยละ 88 และสร้างรายได้รวมประมาณ 215.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19
สำหรับสินทรัพย์ที่กองทรัสต์ QHHRREIT จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ สีลม มีจำนวนห้องพักรวม 214 ห้อง โดยโครงการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ mixed use ที่มีพื้นที่ค้าปลีกและตลาดและตั้งอยู่ในย่านบางรัก ซึ่งเป็นทำเลที่เป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าต่างชาติ จากการมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และเดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้าตากสิน โดยสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 โครงการมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยประมาณร้อยละ 87 และมีรายได้ประมาณ 72.66 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาสร้างการเติบโตของรายได้ให้กับกองทรัสต์ QHHRREIT ในอนาคต
นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า QHHRREIT ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทโรงแรมที่มีความโดดเด่น โดยมีทรัพย์สินที่เข้าลงทุน ทั้งในรูปแบบกรรมสิทธิ์ และสิทธิการเช่า โดยโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ 3 แห่งที่กองทรัสต์ลงทุนในปัจจุบันเป็นทรัพย์สิน เป็นโครงการคุณภาพที่พัฒนาโดยกลุ่มควอลิตี้ เฮาส์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรมชั้นนำในประเทศไทยและตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่นทั้งสุขุมวิท ชิดลม และประตูน้ำ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่หลากหลาย โดยก่อนการแปลงสภาพ กองทุนรวม QHHR มีอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อปีล่าสุดสูงกว่า 9% นอกจากนี้การที่กองทุนรวม QHHR ดำเนินการแปลงสภาพเป็นกองทรัสต์ และลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมที่มีศักยภาพ จะทำให้กองทรัสต์มีรายได้เพิ่มขึ้น และสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อีกด้วย