หุ้นไทยต้านปัจจัยลบต่างประเทศไม่ไหว ดัชนีรูดลงแรง 1.67% ต่างชาติขายไม่หยุด สัปดาห์หน้ามีหลายปัจจัยต้องติดตาม บล.กสิกรไทยให้แนวรับแรก 1,650 แนวต้าน 1,680 เงินบาทแข็งค่า
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (16-19 ต.ค.2561 ) ตลาดหุ้นไทยร่วงตามตลาดต่างประเทศ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลงแรง 1.67% ปิดที่ระดับ 1,667.91 จุด และมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 11.23% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 49,987.03 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ( mai) ลดลง 2.03% มาปิดที่ 426.79 จุด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์
แนวโน้มในสัปดาห์ถัดไป (22-26 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย คาดดัชนีหุ้น มีแนวรับที่ 1,650 และ 1,630 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,680 และ 1,690 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/2561 และสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดิอาระเบีย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2561 ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.ย. ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนต.ค. ตลอดจนถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง
ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนต.ค. ของประเทศแถบยุโรป และญี่ปุ่น
ทางด้านเงินบาทแข็งค่าในช่วงแรก แต่ลดช่วงบวกลงท้ายสัปดาห์ ตามสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ที่เพิ่มน้อยกว่าที่ตลาดคาด
อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม เนื่องจากเงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากบันทึกการประชุมเฟด (25-26 ก.ย.) ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในช่วงปีหน้า ขณะที่ การอ่อนค่าของเงินหยวน หลังจีดีพีไตรมาส 3 ของจีนออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ก็เป็นปัจจัยลบต่อสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และเงินบาท เช่นกัน
ในวันศุกร์ที่ 19 ต.ค. เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.58 จากระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (12 ต.ค.)