HoonSmart.com>>”บริษัทธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ” ประกาศบุกตลาดไทย-ต่างประเทศ จัดงบลงทุนปีนี้ 2,070 ล้านบาท ไม่รวมซื้อโรงพยาบาลไทย ร่วมทุนพันธมิตรเวียดนาม ดีลละ 1,500-2,000 ล้านบาท จับมือสตาร์ทอัพ รุกตลาด Digital Health Tech ขยายธุรกิจสุขภาพครบวงจรรองรับตลาด Wellness & Aging Society คาดรายได้ปีนี้โต 15% ส่วนแผน 3 ปี (66-68) จัดงบลงทุน 4,806 ล้านบาท ขยาย 200 เตียง จากปัจจุบันมีจำนวน 1,520 เตียง โรงพยาบาลที่เมียนมา ดีเกินคาด ปีก่อนเริ่มมีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว คาดว่าจะรับรู้เดือนละประมาณ 10 ล้านบาท
นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เปิดเผยว่า ปี 2566 เป็นปีของการสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากบริษัทฯจะใช้เงินจำนวน 2,070 ล้านบาท ขยายการลงทุนในโรงพยาบาลที่มีอยู่แล้ว ยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการอยู่ 2-3 ดีล เป็นโรงพยาบาลในประเทศ 1 ดีล และกำลังเจรจากับพันธมิตรเวียดนาม เพื่อลงทุนสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท/ดีล คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโต 10% นอกจากนี้ตามแผน 3 ปี(2566-2568) จะใช้เงินลงทุนจำนวน 4,806 ล้านบาท ขยายเตียงจำนวน 200 เตียง จากปัจจุบันมีประมาณ 1,520 เตียง
“เรื่อง M&A มีคุย 2-3 ราย ในส่วนโรงพยาบาลไทยในช่วงโควิด บริษัทที่ไม่มีเครือข่าย อยู่ไม่ได้ ขณะที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพิ่มประสิทธิภาพทำให้กำไรดีขึ้น 30% ส่วนการร่วมลงทุนกับพันธมิตรเวียดนามยังต้องใช้เวลาในการเจรจา แต่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจสูงมาก จากการเติบโตของเศรษฐกิจ คนวัยหนุ่มสาวและรายได้ต่อหัวสูง สำหรับ โรงพยาบาลที่เมียนมา Aryu International ได้รับผลดีจากสถานการณ์โควิด ทำให้มีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ 3 เร็วกว่าการเปิดโรงพยาบาลปกติจะต้องใช้เวลา 5 ปี คาดว่าปีนี้ยังมีกำไรต่อเนื่องประมาณเดือนละ 10 ล้านบาท เมื่อดูผลงานจากเดือนม.ค.และก.พ. โดยบริษัทรับรู้กำไรจากการถือหุ้น 40% นอกจากนี้ยังมีการผ่าหัวใจเปิดอกถึง 33 เคส รวมถึงค่าเงินจ๊าตอ่อนตัวมากกว่า 2 เท่า ทำให้ผู้ป่วยเข้ามารับการตรวจจากโรงพยาบาลในไทยแล้วกลับไปรักษาต่อที่เมียนมา”นายแพทย์ธนาธิปกล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯยังมีการวางกลยุทธ์มุ่งผนึกความร่วมมือกับโรงพยาบาลเครือข่ายและร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพ เพื่อเพิ่มศักยภาพ สร้างโอกาสเชื่อมต่อฐานลูกค้าทุกช่วงวัยผ่านการรักษาพยาบาลและบริการในโรงพยาบาล(On site) และออนไลน์ด้วย Digital Health tech สอดรับเทรนด์ผู้บริโภคที่กำลังมองหาเฮลท์แคร์ที่มีคุณภาพ โดยตั้งเป้าครอบคลุม 3 กลุ่มสำคัญ ได้แก่ 1. กลุ่ม B2C นำ Digital Health Tech มาเพิ่มความสะดวกในการตรวจรักษาและบริการ ควบคู่ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่เป็นจุดขายหลัก 2. กลุ่ม B2B มองหาโอกาสจากหน่วยงานและองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเพิ่มสวัสดิการด้านการแพทย์ให้พนักงาน รวมถึงจับมือกลุ่มบริษัทประกัน กลุ่มสตาร์ทอัพที่ต้องการพาร์ทเนอร์ 3. กลุ่ม B2G มองหาโอกาสใหม่ๆ ที่จะสามารถช่วยสนับสนุนภาครัฐ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพให้กับประชาชนเพิ่มเติม
“หน้าตาของธุรกิจโรงพยาบาลมาทางนี้ ดังนั้นโมเดลธุรกิจจะต้องมี ต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้เป็นส่วนเสริมของปฏิบัติการทางการแพทย์ได้อย่างแม่นยำมีประสิทธิภาพ ทั้งเชื่อมต่อฐานลูกค้า สร้างรายได้และสร้างแบรนด์ ภายใน 5 ปีจากนี้ โรงพยาบาลใดปรับตัวได้ก่อนก็จะได้เปรียบ ล่าสุด THG จึงจัดตั้ง บริษัท เทเลเฮลท์ แคร์ รับผิดชอบดูแลธุรกิจเทเลเมดิซีนและการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลโดยเฉพาะ ซึ่งภาครัฐจะต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ และโรงพยาบาลลงทุนระบบเชื่อมต่อ ปัจจุบันรายได้หลักธุรกิจเฮลท์แคร์ยังมาจากการตรวจรักษาแบบ On site แต่จากฐานข้อมูลพบว่าค่าเฉลี่ยผู้ป่วยโรคทั่วไปจะเข้าโรงพยาบาลลดลงจาก 4-6 ครั้งต่อปี เหลือ 2-3 ครั้งต่อปี ส่วนหนึ่งเพราะสนใจ Health Literacy มากขึ้น Online จึงถูกใช้มากขึ้น” นายแพทย์ธนาธิป กล่าว
สำหรับการลงทุนขยายธุรกิจในประเทศ ยังเดินหน้ามีต่อเนื่อง ทั้งในส่วนที่ THG ลงทุนเอง อาทิ โรงพยาบาลธนบุรี รังสิต อยู่ระหว่างขั้นตอนจัดทำรายงาน EIA และในส่วนที่บริษัทลูกลงทุนซึ่ง THG จะเข้าไปร่วมกำกับดูแลเชิงนโยบายให้มีความ Synergy กับแผนธุรกิจหลัก อาทิ การสร้างศูนย์มะเร็ง พร้อมศูนย์ดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลังผ่าตัดและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจรที่ปิ่นเกล้า การขยายธุรกิจด้าน Wellness ของ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ จิณณ์ เวลเนส เซ็นเตอร์ และ ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ รองรับการเติบโตของตลาด Aging Society เป็นต้น นอกจากนี้การซื้อโรงพยาบาลที่ตรัง ปีที่ผ่านมารับรู้รายได้เพียงเดือนธ.ค. ปี 2566 จะรับรู้เต็มทั้งปี
THG ยังให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมดูแลยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในมิติต่างๆ โดยได้พัฒนาเฮลท์แคร์รูปแบบใหม่ที่ช่วยให้คนทุกช่วงวัยเข้าถึง Health and Digital literacy อาทิ Gudi..Good แอปพลิเคชันเกมส์สำหรับเด็ก รายการ “ถามหมอ กับ THG” ที่นำแพทย์มาตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพแบบทันกระแส อาทิ เจาะลึกโรคมะเร็งในกลุ่มผู้มีอายุน้อย หรือ มะเร็งกับพันธุกรรม ทาง Facebook Thonburi Healthcare Group เป็นต้น และยังมีหลายส่วนที่จะทยอยเพิ่มเติมออกมาเรื่อย ๆ