“บล.คิงส์ฟอร์ด” มองหุ้นปรับฐานแนวรับ 1,650-1,655 แนะ AU-AMATA

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้คาดดัชนีปรับฐาน กรอบแนวรับ 1,650 – 1,655 จุด แนวต้าน 1,670 จุด โดย Fund Flow ต่างชาติชะลอระหว่างรอประเมินเงินเฟ้อสหรัฐและยุโรป รายงานกำไรบจ. แนะทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC, CPN ท่องเที่ยว ERW, MINT, CENTEL รพ. BH, BDMS คัดหุ้นเด่น AU, AMATA

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนี SET ปรับฐานในกรอบแนวรับ 1,650 – 1,655 จุด แนวต้าน 1,670 จุด โดย Fund Flow ต่างชาติชะลอระหว่างรอประเมินเงินเฟ้อสหรัฐและยุโรป และรอรายงานกำไร บจ. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC, CPN ท่องเที่ยว ERW, MINT, CENTEL รพ. BH, BDMS

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.70 บาท) กำไรสุทธิ 4Q65 อยู่ที่ 36 ล้านบาท +8%QoQO, +173%YoY หนุนจากสถานการณ์ Covid-19 ที่คลี่คลาย และการเพิ่มจำนวนสาขา ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของร้าน After you และการขายสินค้า/วัตถุดิบร้าน Mikka cafe ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY มาอยู่ที่ 63% แต่ลดลง QoQ จากการออกเมนูที่มีต้นทุนสูง รวมแล้วปี 65 มีกำไรสุทธิ 118 ล้านบาท ฟื้นตัวเด่น

ส่วนแนวโน้มปี 66 มีแผนเปิดสาขาใหม่มากขึ้นชดเชยในช่วง Covid โดยในช่วง 1H66 จะเปิด After You 3 สาขา และ AU Marketplace 8 สาขา ส่วนร้าน Mikka cafe จะเพิ่มอีก 41 สาขา ให้ได้ 150 สาขา ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 25%YoY สู่ระดับ 1.2 พันล้านบาท ส่วนกำไรมีทิศทางขยายตัวขึ้นต่อเนื่องตามการบริโภคในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ตลาดประเมินกำไรปี 66 ราว 185 ล้านบาท (+56%YoY) และจะกลับเข้าสู่ระดับก่อน Covid ในปีหน้า

AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 24.50 บาท) ประเมินภาพการดำเนินงานในปี65 และปี66 จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากการกลับมาเจรจากับลูกค้าต่างชาติได้อีกครั้งหลังการระบาดของ Covid-19 รวมไปถึงการการตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย โดย เบื้องต้น AMATA ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 66 ไว้ที่ 1,100 ไร่(เติบโตราว +10% จากเป้าปี65 ที่ 1,000 ไร่) ซึ่งคาดยอดขายปี 66 จะมาจากเวียดนาม 400-500 ไร่ ซึ่งมีที่ดินพร้อมขายแล้ว และ ยอดขายที่ดินมี่ชลบุรีไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ รวมถึงระยอง 500 ไร่

ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี 65 และ66 กำไรปกติ(ปี65 มีกำไรพิเศษราว 580 ลบ.)ของ AMATA* จะอยู่ที่ระดับ 1,606 ล้านบาท (+53%YoY) และ 1,706 ล้านบาท (+6%YoY) ตามลำดับ