HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 9.15 จุด รับ Sentiment จากตลาดต่างประเทศที่ต่างปรับตัวลง กังวลการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดหลังเงินเฟ้อสหรัฐยังสูง หุ้นบิ๊กแคปนำดิ่ง Fund Flow ไหลออก นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 4,278.26 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,514.35 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ซึมลงหลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,660 ได้ แนวรับ 1,645-1,650 แนวต้าน 1,660-1,670 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 22 ก.พ.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,659.48 จุด ลดลง 9.15 จุด หรือ -0.55% มูลค่าซื้อขาย 55,106.24 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,667.99 จุด ต่ำสุด 1,656.50 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 4,278.26 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 601.76 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,514.35 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,162.15 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลง รับ Sentiment จากตลาดต่างประเทศ โดยตลาดสหรัฐปรับตัวลงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา และตลาดในยุโรปเปิดเทรดบ่ายนี้ก็ติดลบเกือบ 1% จากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีแนวโน้มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเงินเฟ้อสหรัฐยังสูง ซึ่งให้จับตาคืนนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. โดยรอดูประธานเฟดจะส่งสัญญาณอะไรออกมาบ้าง
ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันจากนอกประเทศได้บดบังปัจจัยบวกจากในประเทศ ทั้งเรื่องการเลือกตั้งที่ชัดเจนขึ้น และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ออกมาเป็นไปตามคาดมากขึ้น อย่างงบฯของกลุ่มค้าปลีก และท่องเที่ยว ซึ่งบางบริษัทก็มีงบฯออกมาดีกว่าตลาดคาด แต่ภาพโดยรวมงบฯที่ออกมายังต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดยังรับแรงกดดันจาก Fund Flow ไหลออก เห็นได้จากหุ้นขนาดใหญ่ยังเจอแรงขาย
พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และวันศุกร์นี้ (24 ก.พ.) ติดตามตัวเลข PCE ของสหรัฐ
ด้านหุ้น บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต (READY) ปิดเทรดวันแรกที่ 15.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.70 บาท หรือ +105.48% จากราคาขาย IPO ที่ 7.30 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,030.29 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 10.70 บาท ขึ้นสูงสุด 16.00 บาท และต่ำสุด 10.40 บาท
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) ตลาดมีโอกาสซึมตัวลงหลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,660 จุดได้ โดยมีแนวรับ 1,645-1,650 จุด แนวต้าน 1,660-1,670 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -2.15% มูลค่าซื้อขาย 3,440.22 ล้านบาท
CPALL อยู่ที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.53% มูลค่าซื้อขาย 2,759.11 ล้านบาท
SINGER อยู่ที่ 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท หรือ +7.62% มูลค่าซื้อขาย 2,026.22 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 156.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -2.19% มูลค่าซื้อขาย 1,530.49 ล้านบาท
KTB อยู่ที่ 17.30 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -1.14% มูลค่าซื้อขาย 1,304.94 ล้านบาท